Translations are evolving and should be taken as indicative only! For a guide to the tones and the spelling system used to write this variety of Isaan (Khon Kaen), see the "tone guide" on the overview page.

Tones: M = mid, HR = high-rising, H = high, HF = high-falling, LF = low-falling

IsaanPronunciationTonesThaiEnglish/Notes#occ
ห้าสิบ ha:-sip LF-M ห้าสิบ fifty 5/3

Link to overview page
Link to dictionary

Basic vocabulary — Page 32 — Series B, pictures 16-17: car, bus, to drive


16
นี้คืออี่หยัง เขากำลังเฮ็ดหญัง อันนี้กะคือลด กะมีคนคนหนึ่ง เป็นพุซายเนาะ กำลังขับลด
แล้วเขาขับไปใส จักคือกัน อันนี้กะบ่ฮู้ว่าเขาขับไปใส เขาอาดสิไปไกเติบ หลือว่าใก้กะได้ เขากะเลยขับลด เพาะว่าเขาญ่าง เขาอาดสิแบบว่าญ่างไปบ่ได้ เขากะเลยต้องขับลดไปเนาะ
แล้วขับลดเนี้ย ต้องขับจักคน ขับสองคนได้บ่คันเดียวเนี้ย บ่ ลดพิกอั่บ หลือว่าลดเก็ง ลดอี่หยัง กะส้างมันมีหม้องขับหม้องเดียว สามาดขับได้คนเดียวเนาะ บ่แม่นว่าสิขับได้สองคน มันมีพวงมาลัยหลือว่าหม้องขับหม้องเดียว เขากะเลยต้องขับคนเดียว ขับสองคนบ่ได้เนาะ

17
พุซายคนนี้เขากำลังเฮ็ดหญัง กะพุซายคนนี้เขากำลังขับลด แต่ว่าเป็นลดบั่ด
อาดสิเป็นลดโดยสานหลือว่าลดบั่ด ขนส่งพุโดยสานกะได้เนาะ
แล้วเขาสิขับไปใส จักคือกัน อันนี้กะบ่ฮู้ว่าเขาสิขับไปใส เขาอาดสิขับไปสะถานีขนส่งหลือว่าไปหม้องจอด ลับส่งพุโดยสานกะได้ อันนี้เฮากะบ่ฮู้เนาะ
แล้วลดบั่ดเนี้ย มันขึ้นได้หลายคนบ่ กะหลายคนเติบเนาะ หม้องนั่ง เออ หม้องนั่งในลดหนิกะปะมานยี้สิบสามสิบคนสามาดนั่งได้เนาะ หลือว่าหลายกว่านั้น บางคันกะอาดสิน้อยกว่านั้น ปะมานสิบกว่าคน หลือว่าสามสิบสี่สิบ ห้าสิบคนกะได้ แล้วแต่ลดบั่ด แล้วแต่บางคัน
ลดบั่ดหนิกะสิมีเทิงซั้นเดียว แล้วกะสองซั้น บางคันกะสิมีแค่ซั้นเดียว บางคันกะสิมีสองซั้น มีซั้นหนึ่งกับซั้นสอง หลือว่าซั้นข้างล่างกับซั้นข้างเทิงเนาะ กะมีสองซั้น ขั้นมีสองซั้นกะขี่ได้หลายคน กะนั่งได้หลายคนเนาะ

Basic vocabulary — page 12 — Series B, pictures 01-05: alarm clock, to sleep, to get up


1
นี้คืออี่หยัง นี้คือนาลิกาปุก
นาลิกาปุกมีไว้เฮ็ดหญัง นาลิกาปุกมีไว้ถ้าปุก นาลิกาปุกซ่อยให้คนตื่นญามมื้อเซ้าได้
เขาตั้งนาลิกาปุกจักโมง เขาตั้งนาลิกาปุกเจ็ดโมงห้าสิบเก้านาที
เจ็ดโมงห้าสิบเก้านาทีเป็นญามเซ้าแม่นบ่ แม่น เจ็ดโมงห้าสิบเก้านาทีเป็นญามเซ้า
เป็นหญังเขาคือตั้งปุกญามมื้อเซ้า เพาะว่าเขาอาดสิไปเฮ็ดงาน หลือสิไปโลงเลียนกะได้ เขากะเลยปุกญามมื้อเซ้า เพื่อที่สิให้ตื่น สิให้ตื่นไปทันเวลา
นาลิกาปุกต้องตั้งเวลาบ่ ตั้งอยู่ ขั้นเฮาอยากตื่นญามใด เฮากะตั้งเวลาปุกญามนั้น
ขั้นอยากตื่นญามเที่ยง เฮากะตั้งนาลิกาปุกญามเที่ยง ขั้นอยากตื่นญามเซ้า เฮากะตั้งนาลิกาปุกญามมื้อเซ้า

2
นาลิกาปุกมันเป็นอี่หยัง นาลิกาปุกมันกำลังปุก
มันปุกตอนจักโมง มันปุกตอนสองโมงเซ้า ตอนแปดนาลิกามันดังขึ้น
เพาะว่าเขาตั้งนาลิกาปุกตอนสองโมงเซ้า พอฮอดสองโมงเซ้าแล้ว นาลิกาปุกมันกะสิดังขึ้น มันกะสิดังบักแฮงหนึ่ง เสียงดังบักคัก เฮ็ดให้เสียงดัง
เพาะว่าคนกำลังนอนหลับ ขั้นได้ญินเสียงนาลิกาปุกดังคนกะสิตื่น กะสิตื่นขึ้นเลย

3
เขากำลังเฮ็ดหญัง เขากำลังนอนหลับ
เขานอนหลับอยู่ใส เขานอนหลับอยู่ในห้องนอน
ห้องนอนของพุใด จักคือกัน ห้องนอนนี้กะอาดสิเป็นห้องนอนของเขา เขากะเลยนอนหลับอยู่หั้น เขานอนอยู่เทิงเตียงนอน
ข้างเตียงนอนของเขามีโต่ะนอนพ้อม มีโต่ะน้อยโต่ะสีเหลียง
อยู่เทิงโต่ะของเขากะมีนาลิกาปุกพ้อม ในโต่ะนั้นกะมีลิ้นชักพ้อม ลิ้นชักมีสามอัน
ตอนนี้เขากำลังนอนหลับ นอนหลับเป็นตาแซบ นอนหลับเป็นตามีแฮง
เขาเอาหัวของเขาหมุนอยู่เทิงหมอน แล้วเขากะผ้าห่มห่มโตของเขา นอนเป็นตาแซบหลาย เป็นตามีแฮงบักคักหนึ่ง

4
เขากำลังเฮ็ดหญัง เขากำลังสิตื่น
เป็นหญังเขาคือสิตื่น เขาได้ญินเสียงนาลิกาปุก
เขาตั้งนาลิกาปุกไว้ มันฮอดเวลาปุกแล้ว นาลิกาปุกมันกะเลยดังขึ้น
พอเขาได้ญิน กะเฮ็ดให้เขาตื่น เพาะว่านาลิกาปุกมันเสียงดังหลาย มันเสียงดังบักคัก กะเลยเฮ็ดให้เขาตื่น เฮ็ดให้เขาตื่นนอน

5
เขากำลังเฮ็ดหญัง เขากำลังตื่นนอน
พุซายคนนี้เขาตื่นนอนแล้ว เขาลุกขึ้นมาจากเตียงแล้ว
แล้วเขาสิญ่างไปใส เขาสิเฮ็ดอี่หยังต่อไป กะบ่ลู้คือกัน
เขาลุกขึ้นมาจากเตียงแล้ว เขาบ่ได้ใส่เกิบเลย เขากำลังสิญ่างไป
จักสิญ่างไปใส เขาอาดสิฟ้าวไปอาบน้ำ อาดสิไปเฮ็ดงานหลืออาดสิไปโลงเลียนกะได้

Basic vocabulary — page 19 — Series B, pictures 11-14: calendar, day, week, month, year


11
นี้คืออี่หยัง นี้คือปะติทิน อันนี้เป็นปะติทิน บอกมื้อ บอกวัน บอกเวลา หลือบอกเดียนบอกปีนั้นหละ
แต่ว่าในปะติทินนี้มีบอกสามมื้อหนึ่ง มีบอกวันที่สิบ แล้วกะบอกวันที่สิบเอ็ด แล้วกะบอกวันที่สิบสอง มีบอกสามมื้อ เฮาเห็นสามมื้อนั้นหละ

12
นี้คืออี่หยัง อันนี้กะเป็นปะติทินคือกัน อันนี้กะเป็นปะติทิน
เป็นปะติทินบอกมื้อ ตอนนี้เฮาเห็นปะติทินบอกเจ็ดมื้อหนึ่ง บอกบ่หลาย เห็นแค่เจ็ดมื้อ
มีวันที่สิบเอ็ด สิบสอง สิบสาม แล้วกะสิบสี่ สิบห้า สิบหก แล้วกะสิบเจ็ด
มีเจ็ดมื้อหนึ่ง เอิ้นง่ายว่ามีอาทิดหนึ่ง อาทิดหนึ่งมีเจ็ดมื้อ
ในอาทิดหนึ่งกะสิมีเจ็ดมื้อ กะสิมีวันจัน วันอังคาน วันพุด วันพะลึหัด วันสุก วันเสา แล้วกะวันอาทิด
กะมีเจ็ดมื้อ ลวมกันกะเป็นอาทิดหนึ่ง หลือเจ็ดมื้อนั้นหละ

13
นี้คืออี่หยัง อันนี้กะเป็นปะติทินคือกัน อันนี้ปะติทินบอกเดียน อันนี้กะเป็นปะติทิน ปะติทินบอกเดียน
อันนี้มีเดียนหนึ่ง แล้วแต่เดียน อันนี้บ่ฮู้ว่าเป็นเดียนอี่หยัง แต่ว่าในเดียนนี้มีสามสิบเอ็ดมื้อ
บางเดียนกะมีสามสิบมื้อ บางเดียนกะมียี้บเก้ามื้อ แล้วแต่ เดียนกุมพาพันกะสิมียี้บเก้ามื้อ
ขั้นเดียนใดที่ลงท้ายด้วย คม กะสิมีสามสิบเอ็ดมื้อ ขั้นเดียนใดที่ลงท้ายด้วย ย๊น กะสิมีสามสิบมื้อ
แต่ว่าในเดียนนี้ที่เขาบอก[อยู่]ในลูบพาบนี้ กะสิมีสามสิบเอ็ดมื้อ เดียนนี้กะอาดสิลงท้ายด้วย คม

14
นี้คืออี่หยัง อันนี้กะเป็นปะติทิน เป็นปะติทินคือเก่านั้นหละ แต่ว่าปะติทินอันนี้เป็นปะติทินบอกปี บอกปี
ปีหนึ่งกะสิมีสิบสองเดียน อันนี้เป็นบอกปี ปีสองพันห้าล้อยห้าสิบเก้า
หลือบอกคอสอ ขั้นเป็นคอสอของปะเทดฝะลั่งกะสิสองพันสิบหก
ในสิบสองเดียน หลือในปีหนึ่ง กะสิมีสิบสองเดียน แต่ละเดียนกะสิมี หนึ่ง เดียนมกกะลาคม สอง กุมพาพัน สาม เดียนมีนาคม สี่ เดียนเมสาย๊น ห้า เดียนพึสะพาคม หก เดียนมิถุนาย๊น เจ็ด เดียนกะละกะดาคม แปด เดียนสิงหาคม เก้า เดียนกันญาย๊น สิบ เดียนตุลาคม สิบเอ็ด เดียนพึสะจิกาย๊น สิบสอง เดียนทันวาคม
อันนี้กะสิเป็นสิบสองเดียนในหนึ่งปี แต่ละปีกะสิมีสิบสองเดียนนี้หละ
แล้วในปีหนึ่งสิมีจักมื้อ ในปีหนึ่งกะสิมีสามล้อยหกสิบหกมื้อ หลือสามล้อยหกสิบห้ามื้อ
ขั้นเดียนกุมพา หลือขั้นปีใดที่เดียนกุมพาพันมียี้บแปดมื้อ ปีนั้นกะสิมีสามล้อยหกสิบห้ามื้อ
แต่ว่าขั้นปีใดที่เดียนกุมพาพันมียี้สิบเก้ามื้อ ปีนั้นกะสิมีสามล้อยหกสิบหกมื้อ