Translations are evolving and should be taken as indicative only! For a guide to the tones and the spelling system used to write this variety of Isaan (Khon Kaen), see the "tone guide" on the overview page.

Tones: M = mid, HR = high-rising, H = high, HF = high-falling, LF = low-falling

IsaanPronunciationTonesThaiEnglish/Notes#occ
สิบ sip M สิบ ten 50/15

Link to overview page
Link to dictionary

Basic vocabulary — Page 28 — Series A, pictures 18-20: warm/hot, just right, cold, degree


18 ตอนนี้อากาดฮ้อน
19 ตอนนี้อากาดกำลังพอดี บ่ฮ้อนหลาย บ่หนาวหลาย
20 อากาดหนาว ซงสิหนาวคักอยู่ ตั้งสิบองสา

Basic vocabulary — page 19 — Series A, pictures 11-14: calendar, day, week, month, year


11 นี้คือปะติทิน
12 ปะติทินบอกมื้อเจ็ดมื้อ
13 ปะติทินบอกเดียน เดียนหนึ่ง มีสามสิบเอ็ดมื้อ
14 ปะติทินบอกปี มีสิบสองเดียน

Basic vocabulary — page 14 — Series A, pictures 11-14: clock, hour, minute


11 นี้คือนาลิกา เวลาห้าโมงตง
12 เวลาห้าโมงยี้สิบนาที*
13 เวลาห้าโมงเคิ่ง
14 เวลาห้าโมงสี่สิบห้านาที

*should be เวลาห้าโมงสิบห้านาที

Vocabulary recordings — สะออน 1

มีหมู่ของเฮาเนาะ หมู่ของเฮานี้หละ เลียนเก่งหลาย สอบได้คะแนนเต็มสิบ สอบได้คะแนนพาสาอังกิดเต็มสิบ เฮากะอาดสิเว้าว่า อาดสิซมว่า ป๊าด คือมาเก่งแท้ สะออนหลาย สะออนคัก เป็นตาสะออนน่อ

Basic vocabulary — page 06 — Series B, pictures 16-17: onion, garlic


16
นี้คืออี่หยัง นี้คือหอมหัวแดง
หอมหัวแดงมันเป็นอี่หยัง หอมหัวแดงมันเป็นพืด
หอมหัวแดงเอาไว้เฮ็ดหญัง หอมหัวแดงเอาไว้ถ้าเฮ็ดแนวกิน
หอมหัวแดงมีจักหัว หอมหัวแดงมีสองหัว หัวหนึ่งทันได้ปาด อีกหัวหนึ่งปาดเคิ่งแล้ว
หอมหัวแดงมันสีอี่หยัง หอมหัวแดงมันสีแดง
หอมหัวแดงมันมีฮากบ่ มีอยู่ หอมหัวแดงมันมีฮากพ้อม
หอมหัวแดงมันหัวใหญ่บ่ บ่ หอมหัวแดงมันหัวบ่ใหญ่ หอมหัวแดงมันหัวน้อยหัวน้อยพอดี บ่ใหญ่หลาย

17
นี้คืออี่หยัง นี้คือกะเทียม
กะเทียมสีอี่หยัง กะเทียมสีขาว
กะเทียมเอาไว้เฮ็ดหญัง กะเทียมเอาไว้ถ้าเฮ็ดแนวกิน
กะเทียมหัวใหญ่บ่ บ่ กะเทียมหัวบ่ใหญ่
กะเทียมมันสิเป็นแบบใด กะเทียมหัวหนึ่ง มันสิหัวบ่ใหญ่ แต่ว่ากะเทียมหัวหนึ่งนั้น มันสิแย้กออกได้หลายกีบ
กะเทียมหัวหนึ่งสิมีปะมานสิบกีบ แต่ละกีบมันสิกีบน้อยกีบบ่ใหญ่หลาย

Basic vocabulary — Page 27 — Series B, pictures 19-20: clock/watch, time, minute


19
อันนี้คืออี่หยัง อันนี้เป็นนาลิกา
นาลิกาเป็นแบบใด นาลิกากะเป็นวงกม เป็นอันวงกม
นาลิกามีหน้าที่หญัง นาลิกากะมีหน้าที่บอกเวลา บอกให้เฮาฮู้ว่าจักโมงแล้ว
กะสิมีอยู่สามเข็มนำกันเนาะ เข็มอันหนึ่งกะสิเป็นเข็มใหญ่ เข็มใหญ่กะสิเป็นเข็มอันใหญ่สั้นเป็นเข็มบอกซั่วโมง แล้วเข็มอีกเข็มหนึ่งเป็นเข็มญาวใหญ่หน่อยหนึ่ง ญาวกะสิเป็นเข็มบอกนาที แล้วเข็มหนึ่ง เข็มน้อยดอก เข็มน้อยญาวเป็นเข็มบอกวินาที
จักโมงแล้ว ตอนนี้สิบสองนาลิกาหนึ่งนาที

20
อันนี้คืออี่หยัง อันกะเป็นนาลิกา เป็นนาลิกาบอกเวลา
แล้วเฮาสามาดฮู้ได้บ่ว่า ตอนนี้จักโมงแล้ว กะฮู้ได้ เพาะว่าตอนนี้เข็มใหญ่มันซี้ไปเลขสิบสอง เข็มน้อยหลือว่าเข็มนาทีมันซี้ไปเลขหนึ่ง กะสิเฮ็ดให้ฮู้ว่าตอนนี้เวลาสิบสองนาลิกาห้านาที
ขั้นตอนนี้สิบสองนาลิกาเป็นญามมื้อคืน กะสะแดงว่าเที่ยงคืน
ขั้นสิบสองนาลิกาอยู่เวลากางวัน หลือว่าญามแก้ง กะสะแดงว่าตอนนั้นตอนเที่ยง หลือว่าเที่ยงวัน หลือว่าเที่ยงมื้อนั้นหละเนาะ

Basic vocabulary — Page 33 — Series B, pictures 09-10: Where is? What time is it?


9
เขากำลังเฮ็ดหญังกัน มีพุหญิงกับพุซาย เขากำลังคุยกัน หลือว่ากำลังเว้ากัน
ในลูบพาบนั้นพุซายกำลังถามพุหญิงว่า โลงบานอยู่ใสคับ แถวนี้มีโลงบานบ่คับ ฮู้จักโลงบานบ่คับ ว่าโลงบานอยู่ใสคับ
พุหญิงอาดสิตอบว่า ฮู้จักอยู่จ้า โลงบานไปทางพุ้นจ้า โลงบานไปทางพี้จ้า โลงบานอยู่บ่ไกจากนี้ดอกจ้า
โลงบานอยู่ข้างหน้าเด้อจ้า โลงบานญ่างไปทางพุ้นเด้อจ้า
แล้วแต่ว่าเขาสิตอบแบบใด หลือว่าแล้วแต่ว่าพุหญิงสิตอบแบบใด ขั้นฮู้ว่าไปทางซ้าย กะตอบว่าทางซ้าย ขั้นฮู้ว่าไปทางขวา กะตอบไปทางขวาเนาะ
ขั้นฮู้ว่าต้องไปทางพุ้น ทางพี้ ทางนั้น กะอะทิบายให้เพิ่น กะเว้าให้เพิ่นฟังว่า ต้องไปจั่งซั้นจั่งซี้เนาะ

10
มีคนสองคน เขากำลังเฮ็ดหญังกัน มีพุหญิงกับพุซาย เบิ่งซงแล้ว พุซายอาดสิอยากฮู้เวลาว่ามันจักโมงแล้ว
อาดสิถามพุหญิงว่า ตอนนี้จักโมงแล้วคับ ตอนนี้จักโมงแล้วน้อ ฮู้จักเวลาบ่คับว่าตอนนี้จักโมงแล้ว ตอนนี้เวลาเท่าใดแล้วคับ ฮู้จักบ่คับ
อันนี้กะเป็นคำเว้าของคนที่ถาม อาดสิใส่ค้าหลือว่าใส่คับกะได้
แล้วกะคนตอบ อาดสิตอบไปว่า ตอนนี้เวลาเท่านั้นเท่านี้ สิบโมงแล้วจ้า เที่ยงแล้วจ้า ทุ้มหนึ่งแล้วจ้า หกโมงเซ้า เจ็ดโมงเซ้า หลือว่าเท่าใด แล้วแต่เวลาว่าตอนนั้นเท่าใดกะตอบไปตามเวลาเท่านั้น
เที่ยงกะตอบเที่ยง บ่ายกะตอบบ่าย ห้าโมงกะตอบห้าโมงเนาะ ว่าตอนนั้นจักโมงแล้ว เฮากะตอบไปตามที่เขาถามมาเนาะ

Basic vocabulary — page 14 — Series B, pictures 11-14: clock, hour, minute


11
นี้คืออี่หยัง นี้คือนาลิกา นาลิกาเป็นซงวงกม เป็นลูบวงกม
นาลิกาสีขาว ขาวจุ่นพู่นอยู่ ขอบนาลิกากะเป็นสีดำ เป็นวงกมคือกัน
นาลิกามีไว้เฮ็ดหญัง นาลิกามีไว้ถ้าเบิ่งเวลา ไว้ถ้าบอกเวลา
ขั้นมีนาลิกา เฮากะสิฮู้ว่า ตอนนี้จักโมงแล้ว ตอนนี้เวลาเท่าใดแล้ว เฮากะสิฮู้ เพาะว่าเฮาเบิ่งนาลิกา แล้วเฮากะสิลู้เวลา
ตอนนี้นาลิกาจักโมงแล้ว ตอนนี้นาลิกาห้าโมงตง หลือห้านาลิกาพอดี
ตอนนี้เข็มนาลิกาอ่วยไปทางใด ตอนนี้เข็มนาลิกาอ่วยไปใส่เลขห้า เข็มใหญ่อ่วยไปทางเลขห้า เข็มน้อยอ่วยไปหม้องเลขสิบสอง
สะหลุบแล้วว่า เฮากะสิฮู้เวลา เฮากะสิเบิ่งเวลาออก เพาะว่าเฮาเบิ่งจากเข็มนาลิกา มันอยู่หม้องใด มันอยู่เลขใด เฮากะสิเบิ่งเวลาถืก

12
นี้คืออี่หยัง นาลิกาคือกันแม่นบ่ แม่น อันนี้กะนาลิกาคือกัน อันนี้กะเป็นนาลิกา
ตอนนี้เวลาจักโมงแล้ว ตอนนี้เวลาห้าโมงสิบห้านาที เพาะว่าเข็มนาลิกา เข็มใหญ่มันอ่วยไปใส่เลขห้า เข็มน้อยนาลิกามันอ่วยไปใส่เลขสาม สะหลุบแล้วเวลากะห้าโมงสิบห้านาที

13
ตอนนี้เวลาจักโมงแล้ว ตอนนี้เวลาห้าโมงเคิ่ง หลือเวลาห้าโมงสามสิบนาทีนั้นหละ

14
ตอนนี้เวลาจักโมงแล้ว ตอนนี้เวลาห้าโมงสี่สิบห้านาที
เข็มนาลิกาเข็มใหญ่มันยังอยู่เลขห้าอยู่ แล้วเข็มน้อยมันกะอยู่ที่เลขเก้า สะหลุบแล้วเวลากะห้าโมงสี่สิบห้านาที
แล้วตอนนี้เวลามันฮอดหกโมงไป่ บ่ มันทันได้ฮอดหกโมงอยู่ ตอนนี้มันห้าโมงกว่าหนึ่ง บ่ทันได้ฮอดหกโมงเลย
ขั้นเข็มนาลิกาเข็มใหญ่อยู่เลขหก แล้วเข็มน้อยเลยเลขสิบสองไป มันกะสิฮอดหกโมง ตอนนี้เหลียเวลาอีกสิบห้านาที มันจั่งสิฮอดหกโมง หลือหกนาลิกานั้นหละ

Basic vocabulary — Page 32 — Series B, pictures 16-17: car, bus, to drive


16
นี้คืออี่หยัง เขากำลังเฮ็ดหญัง อันนี้กะคือลด กะมีคนคนหนึ่ง เป็นพุซายเนาะ กำลังขับลด
แล้วเขาขับไปใส จักคือกัน อันนี้กะบ่ฮู้ว่าเขาขับไปใส เขาอาดสิไปไกเติบ หลือว่าใก้กะได้ เขากะเลยขับลด เพาะว่าเขาญ่าง เขาอาดสิแบบว่าญ่างไปบ่ได้ เขากะเลยต้องขับลดไปเนาะ
แล้วขับลดเนี้ย ต้องขับจักคน ขับสองคนได้บ่คันเดียวเนี้ย บ่ ลดพิกอั่บ หลือว่าลดเก็ง ลดอี่หยัง กะส้างมันมีหม้องขับหม้องเดียว สามาดขับได้คนเดียวเนาะ บ่แม่นว่าสิขับได้สองคน มันมีพวงมาลัยหลือว่าหม้องขับหม้องเดียว เขากะเลยต้องขับคนเดียว ขับสองคนบ่ได้เนาะ

17
พุซายคนนี้เขากำลังเฮ็ดหญัง กะพุซายคนนี้เขากำลังขับลด แต่ว่าเป็นลดบั่ด
อาดสิเป็นลดโดยสานหลือว่าลดบั่ด ขนส่งพุโดยสานกะได้เนาะ
แล้วเขาสิขับไปใส จักคือกัน อันนี้กะบ่ฮู้ว่าเขาสิขับไปใส เขาอาดสิขับไปสะถานีขนส่งหลือว่าไปหม้องจอด ลับส่งพุโดยสานกะได้ อันนี้เฮากะบ่ฮู้เนาะ
แล้วลดบั่ดเนี้ย มันขึ้นได้หลายคนบ่ กะหลายคนเติบเนาะ หม้องนั่ง เออ หม้องนั่งในลดหนิกะปะมานยี้สิบสามสิบคนสามาดนั่งได้เนาะ หลือว่าหลายกว่านั้น บางคันกะอาดสิน้อยกว่านั้น ปะมานสิบกว่าคน หลือว่าสามสิบสี่สิบ ห้าสิบคนกะได้ แล้วแต่ลดบั่ด แล้วแต่บางคัน
ลดบั่ดหนิกะสิมีเทิงซั้นเดียว แล้วกะสองซั้น บางคันกะสิมีแค่ซั้นเดียว บางคันกะสิมีสองซั้น มีซั้นหนึ่งกับซั้นสอง หลือว่าซั้นข้างล่างกับซั้นข้างเทิงเนาะ กะมีสองซั้น ขั้นมีสองซั้นกะขี่ได้หลายคน กะนั่งได้หลายคนเนาะ

Basic vocabulary — Page 28 — Series B, pictures 18-20: warm/hot, just right, cold, degree


18
อันนี้คืออี่หยัง อันนี้เบิ่งแล้วกะสิเป็นหน้าฮ้อน หลือว่าลึดูฮ้อนเนาะ
อาดสิเป็นลึดูแล้งลึดูฮ้อนเนาะ เพาะว่าเบิ่งองสามาแล้วกะสูงเติบ ตั้งสี่สิบองสา
เบิ่งลักสะนะ เบิ่งซงแล้วฮ้อนคัก ฮ้อนคักอี่หลี
สำหลับอยู่พากอี่สานกะสิฮ้อนเติบเนาะ สี่สิบองสาหนิกะสิเฮ็ดให้ผิวไหม้ได้จักหน่อยพุ้นแหล้ว ขั้นตากแดดหลายเนาะ
แล้วหน้าฮ้อนหนิกะสิอยู่ปะมานเดียนมีนาเมสาไปเนาะ กะสิไปเลี้ยยๆ แล้วแต่มันสิฮ้อน ฮอดใส หน้าฮ้อนหลือว่าหน้าแล้ง กะสิอยู่ซ้วงปะมานนี้เนาะขึ้นไป หลือว่าจาก เลิ้มจากเดียนนี้ขึ้นไปเนาะ

19
อันนี้เป็นจั่งใด อากาดเป็นจั่งใด อันนี้กะสิเป็น อาดสิอากาดบ่ฮ้อนหลาย บ่หนาวหลาย
ปะมานจักองสาหละหนิ ปะมานยี้สิบห้าองสาเนาะ กะบ่ถือว่าฮ้อนหลายหนาวหลาย อากาดกะสิพอดี
แต่ว่าสำหลับคนอี่สานหลือว่าคนไทยแล้วกะ ขั้นยี้บห้าองสากะสิหนาวน้อยเย็นน้อยเนาะ บ่ฮ้อนหลาย อากาดกำลังเย็น

20
อันนี้อากาดเป็นจั่งใด ตอนนี้อากาดกะซงหนาวหลาย
สำหลับคนไทยหลือว่าคนอี่สานเนาะ อากาดแบบนี้หนาวคัก เพาะว่าสิบองสานี้คือหนาวโพดโพ หนาวคัก หนาวแน่ หนาวอี่หลี
ทุกคนต้องห่มผ้า หลือว่าใส่เสี้ยแขนญาวหลายโต ซ้อนกันหลายโตเนาะ
ขั้นเป็นหน้าหนาวในพากอี่สาน กานที่ทุกคนสิได้เฮ็ดกะคือ ตั้งไฟ ตั้งไฟ หลือว่าจุดไฟ หลือว่าก่อกองไฟ แล้วกะมานั่งล่วมกัน หลือว่าอาดสินั่งอยู่พุเดียวกะได้
แล้วกะไปนั่งฝิงไฟ หลือว่านั่งข้างกองไฟ เพื่อที่ว่าสิให้มันเกิดความฮ้อนในโต บ่ให้มันหนาวคัก บ่ให้มันหนาวหลาย
แล้วบางคนกะสิใส่เสี้ยแขนญาวหลายโต หลือว่าสามสี่โต ห้าโต แล้วแต่คนสิใส่เนาะ เพาะว่ามันหนาวหลายคัก
ต้องเฮ็ดให้โตเจ้าของอบอุ่น หลือว่าบ่ให้มันเย็น บ่ให้มันหนาวหลายเนาะ

Basic vocabulary — Page 32 — Series B, pictures 11-13: garlic, to peel, to cut/slice


11
อันนี้คืออี่หยัง อันนี้เป็นกะเทียม
กะเทียมหัวหนึ่ง
กะเทียมนี้มันเป็นอี่หยัง มันกะเป็นพืดอย่างหนึ่งเนาะ เป็นแนวปุง ปุงอาหาน ให้มันมีลดซาด หลือว่าให้มันมีกิ่นอีกแบบหนึ่ง แล้วแต่คนมัก บางคนกะบ่มัก บางคนกะมักเนาะ มันสิมีลดแซบเผ็ดจักหน่อยหนึ่งเนาะ กะเทียมเนี้ย เอาไปไว้ไปปุงแนวกินเนาะ
ในกะเทียมหัวหนึ่งเนี้ย มันกะสิมีแย้กออกไป เป็นกีบเนาะ
ในหัวหนึ่งกะสิมีหลายกีบ ลังอันกะมีเจ็ด แปดกีบ ลังอันกะเป็นสิบกีบ
แล้วเฮากะเอาไปปุงอาหาน บางเที่ยกะใส่เป็น ใส่เที่ยละกีบ สองกีบ สามกีบกะได้ บางเที่ยกะใส่แต่ละหัวกะได้ ขั้นปะลิมานแนวกินมันหลายเนาะ
แล้วอันขาวอยู่ขอบมันเนี้ยเป็นอี่หยัง อันนี้อาดสิเป็นแบบว่า เป็นเปียกมันกะได้ หลือว่าเป็น บ่แน่ใจ กะอาดสิเป็นเปียกมัน
แต่ว่าอันขาวเนี้ยกินบ่ได้เนาะ ก่อนเฮาสิเฮ็ดแนวกิน เฮากะต้องแกะออกก่อน แกะเปียกมันให้แกะอันสีขาวคาบมันเนี้ย แกะออกก่อน แล้วเฮากะใส่อันข้างในมันที่มันเป็นเนี้ยเหลียงหลือว่าเป็นในมันหละเนาะ แล้วกะไปปุงแนวกิน

12
เขากำลังเฮ็ดหญัง กะมีคนคนหนึ่ง เขากำลังแกะ แกะเปียก หลือว่าแกะคาบกะเทียมเนาะ
เป็นหญังเขาต้องแกะเปียกมันออก หลือว่าแกะอันขาวนั้นออก เพื่อว่าอันนั้นมันกินบ่ได้ กะต้องแกะออก หลือว่ามัน เขาบ่พากันกินเนาะ เขากะเลยแกะออกไป แล้วกะสิใส่แต่ในมัน หลือว่าน่วยอันที่มันเป็นกีบเหลียงนั้น เอาไปกินส่ำนั้นเนาะ

13
เขากำลังเฮ็ดหญัง กะเขากำลังหั่นกะเทียมเนาะ หั่นกะเทียมเป็นซิ้นน้อยเป็นซิ้นน้อย
เขากะเอามากีบเดียว เอามากีบเดียว แล้วกะหั่นๆๆๆๆ ให้มันเป็นซิ้นน้อย
เขาอาดสิบ่อยากตำ บางคนกะเอาไปตำกะได้ บางคนกะเอามาหั่น มาสับๆๆๆ กะได้ แล้วแต่สิ่งที่เขาถะหนัด หลือว่าสิ่งที่เขาต้องกาน ที่สิเอาไปเฮ็ดเนาะ

Basic vocabulary — Page 25 — Series B, pictures 01-04: fire, paper, campfire, house, to extinguish


1
นี้คืออี่หยัง อันนี้กะดาด กะดาดมันกำลังถืกไฟไหม้
เป็นหญังไฟคือไหม้กะดาด จักคือกัน จักว่าไฟเป็นหญังมันคือไหม้กะดาด จักว่าไฟมันมาแต่ใส คือได้มาไหม้กะดาดแผ่นนี้
แล้วไฟนี้มันไหม้โดนบ่ กะหน้าสิบ่โดน กะอาดสิไหม้บ่โดนปานใด
เพาะว่ากะดาดมันแผ่นน้อยหนึ่ง ไฟมันไหม้แป่บเดียว กะดาดแผ่นนี้กะสิเบิดแล้ว ขั้นกะดาดเบิดแล้ว ไฟมันกะสิดับลง ไฟมันกะสิเซาไหม้ หลือว่าเซาติด

2
นี้คืออี่หยัง อันนี้กะเป็นกองไฟ หลือว่ากองฟืน ตอนนี้ไฟ[มัน]กำลังไหม้กองฟืนนี้อยู่
ฟืนนี้คืออี่หยัง ฟืนหนิกะเป็นท่อนไม้นั้นหละ เป็นกกไม้ เป็นต้นไม้ เอาต้นไม้ต้นน้อยใหญ่เอามาฮาน หลือว่ามาฟันๆๆ ให้มันซิ้นน้อยหลือว่าให้มันท่อนน้อยกะสิกายเป็นฟืนหลือว่าต้นฟืน
ตอนนี้อยู่กองไฟมันมีต้นฟืนหลายต้นบ่ หลือว่ามันมีหลายท่อนบ่ กะหลายท่อนอยู่ เป็นสิบยี้สิบท่อนพุ้นแหล้ว วางกองกันอยู่ วางท้อนกันอยู่ หลายท่อนหลายต้นคัก แล้วไฟมันกะกำลังไหม้อยู่ กำลังไหม้ต้นฟืนนั้นหละ กำลังไหม้กองฟืนนั้นหละ

3
ตอนนี้เกิดอี่หยังขึ้น ตอนนี้ไฟกำลังไหม้บ้าน ไฟกำลังไหม้เฮียน ตอนนี้ไฟกำลังไหม้เฮียนอยู่
ไฟไหม้เฮียนพุใด จักหละเด้อบัดหนิ จักว่าไฟไหม้เฮียนพุใด ฮู้แต่ว่าตอนนี้ไฟมันกำลังไหม้บ้านไหม้เฮียนคนอยู่ ไหม้บักแฮงหนึ่ง ลุก[...]ขึ้นพุ้นหนะ จักว่าไฟมาแต่ใส
มันดีบ่ขั้นไฟไหม้บ้านหนิ กะบ่เลว กะบ่ดีปานใดเลว ขั้นพุใดไฟไหม้บ้านกะซวยเติบพุ้นแหล้ว ของอยู่ในบ้านกะเสียหายเบิด กะพังเบิด กะเสียเบิด
ซู่คนบ่คิดว่ามันดีดอก ขั้นไฟไหม้บ้านหนิ มีแต่ความเสียหาย มีแต่ความหายยะนะ
แล้วไฟนี้มันไหม้โดนไป่ กะจักคือกัน จักว่าไหม้โดนหลือบ่โดน ฮู้แต่ว่ามันกำลังไหม้เฮียนหลังนี้อยู่ กะอาดสิไหม้แต่โดนนั้นหละพุ้นหนะ ไหม้เบิดบ้านเบิดเฮียนเอาโลด

4
เกิดอี่หยังขึ้นตอนนี้ ตอนนี้กะไฟไหม้บ้านอยู่ จักว่าไฟไหม้บ้านพุใด ลุกบักแฮงหนึ่ง ลุกบักคักพุ้นหนะ ไหม้คักอี่หลี
แล้วมีคนมาซ่อยดับไฟบ่ กะมีอยู่พุ้นหนะ แนมเห็นลดคันหนึ่ง มีลดคันหนึ่ง กะอาดสิเป็นลดดับเพิงกะได้ เขาอาดสิมาซ่อยเหลียในกานดับเพิงหลือว่าดับไฟไหม้หม้องนี้กะได้

Basic vocabulary — page 18 — Series B, pictures 11-13: house, roof, stairs


11
นี้คือหญัง นี้คือบ้าน อันนี้เป็นบ้าน
อันนี้เป็นบ้านคน บ้านคนอยู่ ที่อยู่อาสัยของคนนี้หละ
เป็นบ้านเฮียนไทย บ้านไทย หลือเป็นบ้านไม้นั้นหละ
คนอี่สานสิเอิ้นว่าบ้านไม้ แต่ว่าคนพากกางหลือคนไทยเขาสิเอิ้นบ้านเฮียนไทย บ้านเลียนไทยนั้นหละ
บ้านหลังนี้มันตั้งอยู่ใส บ้านหลังนี้มันตั้งอยู่ใสกะบ่ฮู้ อันนี้กะบ่ฮู้คือกัน จักว่าเขาตั้งอยู่ใส
แต่ว่าคนสิอยู่ใส กะไปส้างบ้านไว้หั้น คนอยากอยู่ใส เขากะไปส้างบ้านไว้หั้น แล้วแต่คนสิไปเฮ็ดสิไปส้างอยู่หั้น
แล้วแต่ บางคนอยากไปอยู่ใส บางคนอยากไปอยู่ใส เขากะไปส้างไว้หั้น
แล้วแต่คน แล้วแต่ที่ดินคน มีที่ดินอยู่ใส กะไปส้างบ้านไว้หั้น
บ้านหลังนี้หลือเฮียนหลังนี้เฮ็ดมาจากอี่หยัง บ้านหลังนี้เป็นบ้านไม้ กะต้องเฮ็ดมาจากไม้ ขั้นบ้านปูน จั่งเฮ็ดมาจากปูน
เป็นหญังบ้านหลังนี้คือสูงแท้ อันนี้กะบ่ฮู้คือกัน แล้วแต่บ้าน แล้วแต่คน แล้วแต่คนสิส้างสิเฮ็ด เพาะว่าอยากให้บ้านสูง กะเฮ็ดเสาสูงอยากให้บ้านต่ำ กะเฮ็ดเสาไว้ต่ำ
แต่ว่าบ้านหลังนี้มันสูง เพาะว่าเขาเฮ็ดหลักเสาสูง บ้านหลังนี้มันกะเลยสูง

12
นี้คืออี่หยัง นี้คือหลังคา อันนี้เป็นหลังคาบ้าน หลือหลังคาเฮียนนั้นหละ
หลังคาบ้านนี้เฮ็ดมาจากอี่หยัง กะเฮ็ดมาจากหลังกะสี เฮ็ดมาจากไม้ เฮ็ดมาจากอี่หยังกะได้ ที่มันสามาดทนแดดทนฝนได้ ที่มันสามาดกันลมได้พ้อม
หลังคาอันนี้มีไว้เฮ็ดหญัง หลังคาอันนี้กะมีปะโยดหลาย สำคันคัก สำคันอี่หลี
ขั้นบ่มีหลังคากะบ่แม่นบ้าน เพาะสะนั้นแล้วหลังคาอันนี้กะมีไว้ถ้ากันแดด มีไว้ถ้ากันฝน มีไว้ถ้ากันลมพ้อม
สามาดป้องกันได้ทุกสิ่งทุกอย่าง ขั้นบ้านบ่มีหลังคือ เขากะบ่เอิ้นว่าบ้าน เพาะสะนั้นแล้วทุกบ้านทุกหลังทุกเฮียนต้องมีหลังคา

13
นี้คืออี่หยัง นี้คือบันไดบ้าน นี้คือบันไดเฮียน
บันไดอันนี้เฮ็ดมาจากอี่หยัง บันไดอันนี้กะเฮ็ดมาจากไม้ เฮ็ดมาจากปูนกะได้ แต่ว่าขั้นอันนี้เป็นบ้านไม้ กะต้องเฮ็ดมาจากไม้ ขั้นเป็นบ้านปูน กะเฮ็ดมาจากปูน แล้วแต่บ้าน แล้วแต่หลังเนาะ
บันไดอันนี้มีจักซั้น อันนี้กะบ่ฮู้คือกัน จักว่าบันไดอันนี้มีจักซั้น หลือจักขั้นเนาะ
บ่ได้ไปนับเบิ่ง แต่ว่าเบิ่งแล้ว แนมแล้ว บันไดอันนี้กะสูงเติบ สูงบักคักหนึ่ง กะสิมีหลายซั้น อาดสิมีสิบกว่าซั้นขึ้นไป หลือหลายกว่านั้นกะได้ แล้วแต่ลักสะนะบ้าน แล้วแต่ลักสะนะเฮียน

Basic vocabulary — page 19 — Series B, pictures 11-14: calendar, day, week, month, year


11
นี้คืออี่หยัง นี้คือปะติทิน อันนี้เป็นปะติทิน บอกมื้อ บอกวัน บอกเวลา หลือบอกเดียนบอกปีนั้นหละ
แต่ว่าในปะติทินนี้มีบอกสามมื้อหนึ่ง มีบอกวันที่สิบ แล้วกะบอกวันที่สิบเอ็ด แล้วกะบอกวันที่สิบสอง มีบอกสามมื้อ เฮาเห็นสามมื้อนั้นหละ

12
นี้คืออี่หยัง อันนี้กะเป็นปะติทินคือกัน อันนี้กะเป็นปะติทิน
เป็นปะติทินบอกมื้อ ตอนนี้เฮาเห็นปะติทินบอกเจ็ดมื้อหนึ่ง บอกบ่หลาย เห็นแค่เจ็ดมื้อ
มีวันที่สิบเอ็ด สิบสอง สิบสาม แล้วกะสิบสี่ สิบห้า สิบหก แล้วกะสิบเจ็ด
มีเจ็ดมื้อหนึ่ง เอิ้นง่ายว่ามีอาทิดหนึ่ง อาทิดหนึ่งมีเจ็ดมื้อ
ในอาทิดหนึ่งกะสิมีเจ็ดมื้อ กะสิมีวันจัน วันอังคาน วันพุด วันพะลึหัด วันสุก วันเสา แล้วกะวันอาทิด
กะมีเจ็ดมื้อ ลวมกันกะเป็นอาทิดหนึ่ง หลือเจ็ดมื้อนั้นหละ

13
นี้คืออี่หยัง อันนี้กะเป็นปะติทินคือกัน อันนี้ปะติทินบอกเดียน อันนี้กะเป็นปะติทิน ปะติทินบอกเดียน
อันนี้มีเดียนหนึ่ง แล้วแต่เดียน อันนี้บ่ฮู้ว่าเป็นเดียนอี่หยัง แต่ว่าในเดียนนี้มีสามสิบเอ็ดมื้อ
บางเดียนกะมีสามสิบมื้อ บางเดียนกะมียี้บเก้ามื้อ แล้วแต่ เดียนกุมพาพันกะสิมียี้บเก้ามื้อ
ขั้นเดียนใดที่ลงท้ายด้วย คม กะสิมีสามสิบเอ็ดมื้อ ขั้นเดียนใดที่ลงท้ายด้วย ย๊น กะสิมีสามสิบมื้อ
แต่ว่าในเดียนนี้ที่เขาบอก[อยู่]ในลูบพาบนี้ กะสิมีสามสิบเอ็ดมื้อ เดียนนี้กะอาดสิลงท้ายด้วย คม

14
นี้คืออี่หยัง อันนี้กะเป็นปะติทิน เป็นปะติทินคือเก่านั้นหละ แต่ว่าปะติทินอันนี้เป็นปะติทินบอกปี บอกปี
ปีหนึ่งกะสิมีสิบสองเดียน อันนี้เป็นบอกปี ปีสองพันห้าล้อยห้าสิบเก้า
หลือบอกคอสอ ขั้นเป็นคอสอของปะเทดฝะลั่งกะสิสองพันสิบหก
ในสิบสองเดียน หลือในปีหนึ่ง กะสิมีสิบสองเดียน แต่ละเดียนกะสิมี หนึ่ง เดียนมกกะลาคม สอง กุมพาพัน สาม เดียนมีนาคม สี่ เดียนเมสาย๊น ห้า เดียนพึสะพาคม หก เดียนมิถุนาย๊น เจ็ด เดียนกะละกะดาคม แปด เดียนสิงหาคม เก้า เดียนกันญาย๊น สิบ เดียนตุลาคม สิบเอ็ด เดียนพึสะจิกาย๊น สิบสอง เดียนทันวาคม
อันนี้กะสิเป็นสิบสองเดียนในหนึ่งปี แต่ละปีกะสิมีสิบสองเดียนนี้หละ
แล้วในปีหนึ่งสิมีจักมื้อ ในปีหนึ่งกะสิมีสามล้อยหกสิบหกมื้อ หลือสามล้อยหกสิบห้ามื้อ
ขั้นเดียนกุมพา หลือขั้นปีใดที่เดียนกุมพาพันมียี้บแปดมื้อ ปีนั้นกะสิมีสามล้อยหกสิบห้ามื้อ
แต่ว่าขั้นปีใดที่เดียนกุมพาพันมียี้สิบเก้ามื้อ ปีนั้นกะสิมีสามล้อยหกสิบหกมื้อ

Stories — Childhood memory: jumping off a tree branch into a pile of straw, branch breaks

มีมื้อหนึ่งเนาะ แต่โดนนั้นหละ แต่โดนเติบ แต่หลายปีแล้วหละ ตั้งแต่พุข้าเป็นเด็กน้อยพุ้นหละ ตั้งแต่เป็นเด็กน้อย อายุพุ้นหละมาลาวๆ หอั้น สิบปี สิบเอ็ดปีพุ้นหละเนาะ จักปีเกาะ สิบปี สิบเอ็ดปีพุ้นหละ เป็นสิบปีคืนหลังพุ้นหละ ตั้งแต่เป็นเด็กน้อย เป็นเด็กน้อยเด็กเอ่ยพุ้นหละ พากันเหล้นกันเนาะ ตามปะสาเด็กน้อยหละ โอ๊ย เด็กน้อยอยู่บ้านกะหลายกะด้อกะเดี้ย หมู่กันหนิหละ ตั้งแต่เป็นเด็กน้อยเนาะ กะหมู่หลายเนาะ สะหมัยแต่กี้เด็กน้อยในหมู่บ้านหนิ หลายเติบเด่ะเด็กน้อยหนิ เป็นซาวพุ้นหละ ซาวกะคือยี้สิบพุ้นหละ เป็นยี้สิบสามสิบคนพุ้นหละ เด็กน้อยในหมู่บ้านนั้น หลายคัก

พากันเหล้นมื้อนั้น พากันซวนกันไปเหล้น ไปเหล้นอี่หยังบุ ไปเหล้นอี่หยัง บ่เหล้น พากันได้ปีนกกไม้ ไปปีนหอั้น ไปเหล้นหญ้มหอั้น กกไม้ ต้นอี่หยังเกาะ เขาเอิ้นว่าหอั้น ต้นผักกะเสดติ ต้นผักกะเสดเนาะ ไปพากันไปปีนเหล้น โอ๊ยตาอยากหัวหลาย คิดพ้อแล้วกะเดย คิดพอแล้วกะอยากหัวเนาะ ไปพากันไปปีนเหล้น สี่ห้าคนพุ้นแหล้ว มื้อนั้นหอั้น ปีนขึ้นไปต้นนั้น ผักกะเสดกะต้นน้อยเนาะ ต้น[...] ลำบ่ใหญ่ปานใด

พากันขึ้นสี่ห้าคน ขึ้นแล้วกะหญ้ม [...] เหล้นพุ้นแหล้ว ขึ้นเหล้นเพาะว่าหอั้น อยู่ข้างกกหอั้น ผัก ผักอี่เสดหนะ ต้นผักอี่เสด แล้วมันสิมีหอั้น กองเฟียงเนาะ กองเฟียงกองบักใหญ่หนึ่ง เด็กน้อยกะแล่นเหล้น บางคนกะเหล้นอยู่อ้อมกองเฟียงนั้นหละ แล่นเหล้น แล่นซ้าย แล่นขวา โดดซ้าย โดดขวา โดดอยู่เทิงกองเฟียงนั้นหละ ม่วนหลาย ม่วนคัก

ซุมขี้มึนบัดหนิ ซุมขี้มึนกะไปปีนหอั้นกกผักอี่เสด จักปีนจั่งใด หญ้มซ้าย หญ้มขวา บางคนกะโดดใส่กองเฟียง บางคนกะโดดลงข้างล่าง โดดซ้าย โดดขวา ปีนขึ้นเทิงโดด ปีนขึ้นเทิงโดดเนาะ โดนเติบ บัดนี้พอฮอดหอั้น โดนเติบ บัดนี้หอั้น ต้นไม้มันกะสิหักตั๊วะบัดหนิ ต้นไม้ ผักอี่เสด ต้นที่ ที่มันขึ้นนั้นหละ สี่ห้าคนนั้นหละ มึนคักมึนแน่แต่กี้หนะ หักลงมาบัดหนิ ยืนอยู่เทิงนั้นสี่ห้าคนพุ้นหนะ ง่าผักอี่เสดหักลงมา ตกเอ้ม! ลงมา ตก เจ็บวะสั้น แล้วพากันให้ก้ากๆ ไปหาพ่อหาแม่บัดหนิ

กองเฟียงกะบ่ได้เหล้นซ้ำ ต้นไม้นั้นกะหักซ้ำ บ่มีพุใดได้ขึ้นอีกบัดหนิ พากันให้แข่งกัน ไปหาพ่อแม่บัดหนิ ถืกตีซ้ำ พ่อแม่กะตีซ้ำว่ามึนหลาย ไปเฮ็ดหญังบ่เฮ็ด ไปปีนกกไม้ ตกลงมาให้ก้ากๆ ได้เป็นแผเป็นเอ่ย เจ็บโตซ้ำ เทิงถืกพ่อแม่ตีอีก บัดนี้กะบ่ได้ไปขึ้นอีกดอก บ่มีกกไม้ กกไม้กะได้หักแล้ว บ่ได้ขึ้นอีกดอกบัดหนิ

มื้อหลังมื้อใหม่กะสิหาเหล้นแนวใหม่พุ้นหละ บ่มีหม้องขึ้นแล้ว กก [...] ไม้ กกผักอี่เสดอยู่ข้างกองเฟียง หม้องที่สิโดดลงกองเฟียงหนะกะบ่มีแล้ว กะสิได้หาเหล้นแนวใหม่ต่อไปนี้เนาะ