Translations are evolving and should be taken as indicative only! For a guide to the tones and the spelling system used to write this variety of Isaan (Khon Kaen), see the "tone guide" on the overview page.

Tones: M = mid, HR = high-rising, H = high, HF = high-falling, LF = low-falling

IsaanPronunciationTonesThaiEnglish/Notes#occ
พ้อ phɔ: HF พบ, เจอ 1. to meet {จั่งพ้อกันใหม่ = See you again!} {คนที่หัวกะเคยพ้อกัน = someone [we've] just met} {ขั้นพ้ออาจานคนใด ต้อง ... = whenever you meet a teacher, you need to ...}
2. to encounter, to find {เขาหาเหล้มนั้นบ่พ้อ = he doesn't find that book}
26/11

Link to overview page
Link to dictionary

BCF01 Greetings and leave takings (informal) — Dialogue C


เฮ้ย มึงมาแต่ใส
มาแต่โลงเลียน มาแต่เฮ็ดทุละ

เออไปก่อนเด้อ
เออ จั่งพ้อกันใหม่

Basic vocabulary — Page 31 — Series B, pictures 01-02: heart, brain


1
นี้คืออี่หยัง อันนี้เป็นหัวใจ หัวใจของคน เป็นอะวัยยะวะของคนอย่างหนึ่ง
หัวใจมันสีอี่หยัง หัวใจมันเป็นสีแดง
แล้วหัวใจหนิมันอยู่หม้องใดของล้างกายคน มันกะอยู่เลาะหน้าเอิกเนาะ หลือว่าอยู่ตงกางของลำโตหนิหละเนาะ
หัวใจหนิมันใหญ่บ่ กะบ่ใหญ่ปานใด กะปะมานสองกำปั้นเนาะ กะบ่ใหญ่คัก กะสิพอปะมานพอดี ปะมานสองสามกำปั้นล่วมกันเนาะ

2
อันนี้คืออี่หยัง อันนี้กะเป็นสะหมองของคน
หลือว่าเบิ่งลูบ เบิ่งล้างมันเนี้ย ปะมานว่าเป็นสะหมองของคนเนาะ
กะเป็นอะวัยยะวะอีกอย่างหนึ่งของคนคือกัน
มันมีหน้าที่อี่หยัง สะหมองนี้กะมีหน้าที่เอาไว้ถ้าคิด เอาไว้ถ้าจดจำบางสิ่งบางอย่าง หลือว่าเกียบทุกอย่างที่เฮาคิดพ้อ หลือว่าเฮาได้ลับลู้ไป
แล้วสะหมองหนิมันอยู่ส่วนใดของคน สะหมองหนิมันสิอยู่เทิงหัวกะโหลกของคนเนาะ หลือว่าอยู่เทิงหัวของคนหนิหละ อยู่เทิงหัวสุด มันกะอยู่หม้อง หม้องกะโหลกหัวนั้นของเฮาเนาะ

BCF04 Introducing oneself to others — Description


ลูบนี้กะสิเฮ็ดให้เฮาฮู้ว่า เป็นกานแนะนำโตของเจ้าของ ให้คนอื่นฮู้จัก หลือสิเป็นกานทักทายกัน กานแนะนำโตของเจ้าของ ให้แต่ละฝ่ายฮู้จักว่าเจ้าของเป็นใผ มาแต่ใส ซื่ออี่หยัง เฮ็ดงานอี่หยัง เป็นอี่หยัง ปะมานนี้เนาะคับ กะสิญกโตอย่าง อย่างเซ้น เฮาอาดสิเห็นกันอยู่ในงาน เห็นกันอยู่ในห้าง พ้อกันอยู่ในโลงเลียน พ้อกันอยู่โลงพะยาบาน เฮากะอาดจะทักทายกัน แนะนำโตของเจ้าของ ปะมานว่า

สะหวัดดีคับ ผมซื่อ ... เด้อคับ ผมเป็นพุใหญ่บ้าน บ้าน ... บ้านอันนั้น บ้านอันนี้เด้อคับ ขอฝากเนี้ยฝากโตหนะเด้อคับ

หลือจะเป็นกานแนะนำโตของเจ้าของ เจ้าของอาดจะเป็นนักเลียน แนะนำโตให้คูฮู้จัก อย่างเซ้นว่า

อาจานคับ สะหวัดดีคับ ผมซื่อนาย ... ผมเลียนอยู่ซั้นมอสี่ทับหก ผมมาเลียนอยู่โลงเลียนแห่งนี้มื้อแลก กะขอฝากเนี้ยฝากโตหนะเด้อคับ

และอีกเหดกาน และอีกสะถานะกานอาดสิพ้อกันอยู่ในงานบางอย่าง อาดสิแนะนำโตของเจ้าของว่า

สะหวัดดีคับ ผมซื่อ ... เด้อคับ ผมเป็นหมอ ลักสาอยู่โลงพะยาบาน ... เด้อคับ

เฮากะอาดจะแนะนำโตของเจ้าของ หลือคนอื่นกะอาดสิแนะนำโตของเขาให้เฮาฮู้จัก และนี้กะสิเป็นกานแนะนำโตของเจ้าของ ให้คนอื่นฮู้จัก หลือเฮากะอาดสิฮู้จักคนอื่นพ้อม นี้กะเป็นคำเว้าบางส่วน คำเว้าในกานแนะนำโตของเจ้าของของคนอี่สาน

BCF03 Introducing someone else to others — Description


ลูบนี้สิเป็นกานทักทาย หลือแนะนำโต ของคนที่บ่ฮู้จักกัน คนที่หัวกะเคยพ้อกัน หลือคนที่หัวกะเคยเว้ากัน เว้าง่ายว่า เป็นคนที่บ่ฮู้จักกันมาก่อน อย่างเซ้น คนใส่เสี้ยสีฟ้าญ่างมากับคนใส่เสี้ยสีแดง สองคนนี้ลู้จักกัน เป็นหมู่กัน ญ่างมาเลี้ยยๆ บ่ลู้ว่าเขาญ่างอยู่ใส อาดจะญ่างอยู่สะหนามกีลา ญ่างอยู่ห้าง แต่ว่าญ่างไปญ่างมา พ้อคนที่ฮู้จักกัน เขาใส่เสี้ยสีเหลียง เขาญ่างมา แล้วคนใส่เสี้ยสีฟ้าแนมเห็น กะสิแนะนำคนใส่เสี้ยสีแดง ให้คนใส่เสี้ยสีเหลียงฮู้จัก กะเลยเว้าขึ้นว่า

อันนี้หมู่เฮาเด้อ
อันนี้อาจานเฮาเด้อ
อันนี้พ่อเฮาเด้อ
อันนี้คูเฮาเด้อ
อันนี้หัวหน้างานเฮาเด้อ

เฮาสามาดเว้าว่าอี่หยังกะได้ ขั้นเฮาญ่างมากับใผ ญ่างมากับพุใด เขาเป็นอี่หยัง เฮากะสามาดบอกให้เขา แนะนำให้เขาฮู้จักได้

พอคนใส่เสี้ยสีเหลียงได้ญิน กะต้องทักทาย หลือเว้ากับคนใส่เสี้ยสีแดง เขาอาดจะเว้าขึ้นว่า

สะหวัดดีคับ ข้อยซื่ออันนี้เด้อ ข้อยซื่ออันนั้นเด้อ

เฮาซื่อหญัง เฮากะตอบไปว่าเฮาซื่อหญัง เฮากะบอกเขาไปว่า เฮาซื่ออี่หยัง พอคนเสี้ยสีแดงได้ญินแล้ว เขากะต้องเว้าขึ้นอีกว่า

สะหวัดดีคับ ผมซื่อ ผมซื่ออันนั้นเด้อ ผมซื่ออันนี้เด้อ ผมเป็นอันนั้น ผมเป็นอันนี้ ผมเป็นคู ผมเป็นอาจาน ผมเป็นตำหลวด

เฮากะเว้าไปได้ เฮาเป็นอี่หยัง เฮากะเว้าทักทายกันไป แล้วกะอาดสิถาม

ซำบายดี มีสุขบ่
สิไปใส มาใส

ปะมานนี้เนาะคับ พอเว้ากันโดน หลือหลายความแล้ว กะสิเว้าอีกว่า

ยินดีที่ได้ฮู้จักเด้อคับ
ยินดีที่ได้ฮู้จักเด้อค้า

อาดสิเว้ากันปะมานนี้เนาะคับ

Basic vocabulary — Page 31 — Series B, pictures 11-13: to dream, cat, fish, dog, bone, girl, school


11
นี้คืออี่หยัง อันนี้เป็นแมว แมวโตหนึ่งนั้นหละ
มันกำลังนอนหลับซ้ำแมะ กำลังนอนหลับแซบอยู่พุ้นหนะ นอนโตเดียวของมันข้อหล้อนั้นหละ
หลับตา งับปากพ้อมพุ้นแหล้ว นอนหลับ อุ้ย นอนหลับแซบคักแซบแน่เนาะ
กำลังฝันพ้อมพุ้นแหล้ว มันกำลังฝันฮอดปาโตหนึ่ง
มันกำลังฝันเห็นปาโตหนึ่ง
คือแบบว่ากำลังสิหิวเข้าพอดีนั้นหละ ว่ากำลังสิคิดพ้ออยากกินเข้า กะเลยฝันเห็นฮอดปาพอดี กำลังอยากได้กินปาพุ้นหละเนาะ
แล้วความฝันเนี้ย ขั้นเฮาฝันพ้อปา เฮาสิได้กินปาอี่หลีบ่ กะบ่ ความฝันมันเป็นสิ่งที่มันจินตะนาขึ้น จินตะนากานขึ้น หลือว่ามันเป็นแค่ความคิดที่มัน ที่เฮานอนหลับ แล้วเฮาคิดขึ้นเอง หลือว่าความคิดมัน เป็นสิ่งที่มันคิดขึ้นเอง เฮาบ่สามาดเห็นโตแท้ของจิงที่เฮา ของแท้ที่เฮาฝันฮอดหลือว่าฝันเห็นได้เนาะ

12
อันนี้คืออี่หยัง กะเป็นหมาเนาะ มีหมาโตหนึ่ง หมาโตสีเทาเนาะ กำลังนอนหลับอยู่
คือสินอนหลับแซบหลับนัวคัก เหลียวเบิ่ง ฝันเห็นฮอดกะดูกพ้อม กะดูกอันบักใหญ่พุ้นแหล้ว ฝันเห็นฮอดกะดูก
แล้วหมาโตนี้กำลังฝันเห็นกะดูก มันสิได้กินกะดูกแท้บ่ กะบ่เนาะ เพาะว่ามันเป็นแค่ความฝัน มันเป็นแค่เลี่ยงที่มันสมมุดขึ้น หลือว่าเลี่ยงที่มันจินตะนาขึ้น จินตะนากานขึ้น ในความฝันของเฮาซื่อๆ เนาะ

13
อันนี้คืออี่หยัง กะมีพุหญิงพุหนึ่งเนาะ กำลังนอนหลับอยู่
นอนหลับอยู่เทิงเตียงนอนพุ้นแหล้ว ห่มผ้าพ้อม หมุนหมอนพ้อม หมอนกะสีเหลียง ผ้าห่มกะสีฟ้า กำลังนอนอยู่เทิงเตียงนอนเนาะ
กำลังฝันพ้อมพุ้นแหล้ว คือสินอนหลับแซบคัก ฝันบ่ฮู้อีโหน้อีเหน้เนาะ ฝันฮอดโลงเลียน
อาดสิว่าเขากำลังอยากไปโลงเลียนพอดี กำลังสิได้ไปโลงเลียน แล้วกะฝันฮอดบางสิ่งบางอย่างนั้น
แต่ว่าความฝันหนิ บางสิ่งเนาะ ขั้นเฮาได้พ้อใน พ้อเลี่ยงใดเลี่ยงหนึ่ง หลือว่าพ้อเลี่ยงนั้นดุหลือว่าคิดฮอดเลี่ยงนั้นดุหลือว่าเว้าฮอดเลี่ยงที่เลี่ยงบางเลี่ยงดุเฮาอาดสิเก็บมาฝันหลือว่าเก็บมาคิดกะได้เนาะ

Basic vocabulary — Page 32 — Series B, pictures 06-07: to greet/pay respect


6
มีคนสองคนเขากำลังเฮ็ดหญัง สองคนนี้อาดสิเป็นคนที่ฮู้จักกัน หลือว่าหัวกะฮู้จักกันกะได้
เขากำลังไหว้กัน หลือว่าหวัดดีกัน หลือว่าเขาอาดสิหัว[ได้]พ้อกัน หลือว่าหัวแต่สิเห็นกัน หัวแต่สิมาเห็นกัน หลือว่านัดกัน หัวกะพ้อกันเนาะ กะไหว้กัน หลือว่าหวัดดีกัน ทักทายกันตามปะสาคนที่ฮู้จักกัน หลือว่าบ่ฮู้จักกันกะได้เนาะ
เขากำลังไหว้กัน อาดสิมีพุหนึ่งเลิ้มก่อนหลือว่าเลิ้มพ้อมกันกะได้ กานไหว้เนาะ แล้วกะทักทาย สะหวัดดีคับ สะหวัดดีคับ เป็นจั่งซั้นจั่งซี้ กะทักทายกันต่อไปเนาะ
แต่ว่าขั้นสองคนนี้ ขั้นมาพ้อกัน แล้วบางคนอาดว่าสิเป็นน้องหลือว่าอายุน้อยกว่า หลือว่าบางคนสิอายุหลายกว่า ขั้นพุใดที่มีอายุน้อยกว่า หลือว่ามีหน้าที่มีอายุที่น้อยกว่า กะให้เป็นคนหวัดดีก่อน หลือว่าไหว้ก่อนเนาะ เพื่อที่ว่าตามมาละย้าด แล้วกะพุอายุน้อยหลือว่าพุเป็นน้องหนะ กะไหว้ก่อน แล้วกะพุมีอายุหลายกว่า หลือว่าพุอาวุโสกว่า กะสิลับไหว้นั้นต่อไปกับไปเนาะ

7
สองคนนี้เขากำลังเฮ็ดหญัง เขากะกำลังทักทายกันเนาะ เขากะมีพุใหญ่กับเด็กน้อย เขากำลัง หัวอาด อาด แบบว่า อาดสิหัวแต่พ้อกัน หลือว่ามาพ้อกัน หัวกะพ้อกันเนาะ กะหวัดดีกัน หลือว่าทักทายกัน กะอย่างที่ว่าเนาะ เด็กน้อย พุใดที่มีอายุน้อยกว่า หลือว่าอายุน้อยกว่า ให้ไหว้พุที่อายุหลายกว่า
แล้วกะมีพุหนึ่งเป็นเด็กน้อย พุหนึ่งเป็นพุใหญ่เนาะ พุใส่เสี้ยสีซมพูกะเป็นเด็กน้อยกว่า กะเลยต้องไหว้ก่อน กะไหว้พุที่เป็นอาวุโสกว่าหลือว่าอายุหลายกว่า กะไหว้ แล้วกะทักทายไป แล้วกะคนที่อายุหลายกว่าอาดสิไหว้ตอบลับ หลือว่าหวัดดีคับ หลือว่าหวัดดีค้า ตอบแค่เป็นกาน เป็นคำเว้าซื่อๆ กะได้ คำว่า สะหวัดดีคับ สะหวัดดีค้า ซื่อๆ กะได้ บางคนอาดสิญกมือตอบลับไหว้พ้อมกะได้ หลือว่าบ่ใซ้มือไหว้กะได้เนาะ

Basic vocabulary — page 20 — Series B, pictures 16-20: school, student, teacher, to pay respect


16
นี้คืออี่หยัง อันนี้เป็นโลงเลียน เบิ่งซงแล้วเป็นลักสะนะของโลงเลียน
แล้วเด็กน้อยมาเฮ็ดอี่หยังอยู่โลงเลียน เด็กน้อยนักเลียนมาเฮ็ดอี่หยังอยู่โลงเลียน กะมาเลียนหนังสือ
โลงเลียนเป็นหม้องให้ความฮู้ ขั้นเด็กน้อยมาโลงเลียน กะสิได้ความฮู้ ขั้นบ่มาโลงเลียน กะสิบ่ได้ความฮู้ กะสิปึก
โลงเลียนนี้มีจักซั้น โลงเลียนนี้มีสองซั้น มีซั้นหนึ่งกับซั้นสอง
เสาอยู่ข้างหน้าโลงเลียนนั้นเป็นเสาอี่หยัง เป็นเสาทงซาด ทุกโลงเลียนในปะเทดไทยสิมีเสาทงซาด เป็นเสาเคาลบทงซาดอยู่หน้าโลงเลียน แล้วกะมีทงซาดอยู่เทิงหลักเสานั้นพ้อม
เสาอันนี้กับทงซาดอันนี้เอาไว้เฮ็ดหญัง เอาไว้ยืนเคาลบทงซาด ทุกมื้อเวลาสองโมงเซ้าที่นักเลียนไปโลงเลียน เด็กน้อยต้องมายืนเคาลบทงซาดอยู่หนี้ แล้วกะล้องเพงซาดของปะเทดไทย

17
นี้คือพุใด เขาเป็นพุใด เขาเป็นใผ เขาเป็นเด็กน้อยนักเลียน เป็นนักเลียน
เขาใส่ซุดนักเลียนอยู่ ตอนนี้เขากำลังแต่งซุดนักเลียนอยู่
แล้วเขาถืออี่หยังอยู่ เขาถือกะเปา เป็นกะเปาถือ เป็นกะเปาถือของนักเลียน

18
นี้คือพุใด อันนี้เป็นเด็กน้อยนักเลียน เป็นเด็กน้อยนักเลียนพุหญิง
เขาใส่ซุดอี่หยังอยู่ เขาใส่ซุดนักเลียน พุหญิงสิใส่ซุดนักเลียน แล้วกะใส่สิ้นพ้อม เป็นสิ้นกะโปงนักเลียน
แล้วในมือของเขานั้นถืออี่หยังอยู่ ถือกะเปานักเลียน เป็นกะเปานักเลียน เขากำลังถืออยู่

19
นี้คือพุใด อันนี้เป็นคู เป็นอาจาน
คูมีหน้าที่เฮ็ดหญัง คูมีหน้าที่สอน สอนหนังสือเด็กน้อยนักเลียน ให้นักเลียนมีความฮู้ ให้เด็กน้อยเลียนหนังสือเก่งแล้วกะซ่อยบอกซ่อยสอนเด็กน้อยนักเลียน ให้เป็นคนดี แล้วกะตั้งใจเลียน
เห็นดำอยู่ข้างหลังอาจานนั้นเป็นอี่หยัง เป็นกะดานดำ เอาไว้เขียน หลือเอาไว้สอนนักเลียน
สีขาวที่เขียนอยู่นั้นคืออี่หยัง เป็นซ่อก เอาไว้เขียนลงไปในกะดานดำนั้น ให้มันเกิดโตหนังสือ หลือให้เกิดสิ่งที่เฮาสิสอนลงไปในนั้น

20
เด็กน้อยนักเลียนกำลังเฮ็ดอี่หยัง กำลังไหว้อาจาน กำลังทำความเคาลบอาจาน
เขาเฮ็ดเฮ็ดหญัง เขาไหว้อาจานเฮ็ดหญัง เขากะไหว้เพื่อที่สิทำความเคาลบอาจาน
เด็กน้อยนักเลียนทุกคนที่อยู่ในโลงเลียนนั้น ขั้นพ้ออาจานคนใด ต้องไหว้ หลือสะหวัดดีอาจาน เพื่อทำความเคาลบ

BCF01 Greetings and leave takings (informal) — Description


ลูบพาบนี้กะสิเฮ็ดให้เฮาฮู้จักว่า อันนี้เป็นกานสนทะนากัน หลือกานเว้ากันของเด็กน้อยของคนอี่สานที่ฮู้จักกัน กะสิสมมุดว่า มีคนสองคนที่ฮู้จักกัน เขามาพ้อกัน อยู่หม้องใดหม้องหนึ่ง เขาได้เอิ้นใส่กัน เขาได้ทักทายกัน พุซายแนมเห็นพุหญิงพุนั้น กะเลยได้เอิ้นถามว่า

เฮ้ย มึงมาแต่ใส
มึงมาเฮ็ดหญัง
มึงสิไปใส

พุซายกะสิได้ฮ้องถามปะมานนี้ พุหญิงได้ญินแล้ว กะสิได้ตอบกับไปว่า

มาตะหลาด
มาเฮ็ดทุละ
มาหาแม่
มาหาพ่อ
สิไปบ้าน
สิไปโลงบาน
สิไปนั้น สิไปนี้ แล้วแต่

เฮาสามาดตอบกับไปได้ เขาถามอี่หยังเฮามา เฮากะตอบไปแบบนั้น

หลือคำเว้าที่เขาถามเฮามา เฮาสามาดถามเขากะได้อีกคือกัน เขาถามเฮาว่า เฮาสิไปใส เฮามาหญัง เฮามาเฮ็ดหญัง เฮากะสามาดถามเขาไปได้คือกันว่า มึงมาหญัง มึงมาเฮ็ดหญัง มึงสิไปใส มึงมาแต่ใส ขั้นเขาได้ญิน เขากะสิตอบเฮาว่าจั่งซั้นว่าจั่งซี้คือกัน

พอเด็กน้อยสองคนนี้ได้เว้ากันโดนเติบ ได้พ้อกันโดนเติบ เขากะสิได้จากกัน พุหญิงกะสิไปทางหนึ่ง พุซายกะสิไปอีกทางหนึ่ง พุหญิงกะเลยเว้าขึ้นว่า

เออกูฟ้าว กูสิฟ้าวไปหาแม่กู กูไปก่อนเด้อ

พอพุซายได้ญินแล้ว พุซายกะเลยเว้าขึ้นว่า

เออกูกะฟ้าวคือกัน กูกะสิฟ้าวไปเฮ็ดทุละคือกัน ส่ำนี้หละ ไบบ่าย

พอเว้ากันเส็ด สองคนนี้กะได้จากกัน กะได้ต่างคนต่างไป

กานเว้าของเด็กน้อยของคนอี่สาน เป็นคำเว้าที่บ่สุพาบ แต่มันกะเป็นวัดทะนะทัม หลือคำเว้าคำจาของเด็กน้อยของคนอี่สาน เป็นคำเว้า กูมึงเป็นคำเว้าที่บ่สุพาบ บ่ม่วน บ่ไพเลาะ แต่คำเว้านี้กะสามาดเว้ากับหมู่ เว้ากับพวก เว้ากับน้อง เว้ากับคนที่เฮาฮู้จักในวัยเดียวกัน เฮาบ่สามาดเว้ากับพุใหญ่หลือคนที่มีอายุกว่าเฮาได้

Stories — Dog getting dirty

มื้อนี้เนาะหอั้น มีเลี่ยงหนึ่ง มีเลี่ยงหนึ่งเนาะ สิมาเว้าให้ฟัง เลี่ยงหมาน้อยหนิหละ หมาน้อยของข้อยหนิหละ เป็นหมาน้อยโตหนึ่งเนาะ หมาน้อยหอั้น โตน้อยนี้หละ พุข้าเอามาเลี้ยง เอามาเลี้ยงใหม่หละ หัวกะเอามาเลี้ยงเนาะ เป็นหมาน้อย หมาพัน จักพันอี่หยังบุ โตน้อยตาฮักดอก ตาฮักอี่หลี หมาน้อยหนิกะเดย ขนสีน้ำตานพุ้นแหล้ว ขนญาวฟูบักคักพุ้นหละ ขนมันกะเดย งามอี่หลี งามคักงามแน่ สะออนหลาย พาไปหม้องนั้นหม้องนี้ มีแต่คนสะออน เขาสะออนคัก เขาสะออนหลาย ญ้อนว่ามันตาฮักหลาย มันตาฮัก

เทิงขี้มึน หมาอี่หยังมามึนกะด้อกะเดี้ย ขี้มึนหลาย หมาโตหนิกะเดย มีหอั้นเลี่ยงหนึ่งหนิหละ มาเว้าเลี่ยงหมาน้อย สิเว้าเลี่ยงหมาน้อยให้ฟัง มื้อนั้นหอั้น เลิกเลียนมาแล้ว มื้อวานนั้นหละเนาะ บ่แม่นมื้อนั้นดอก มื้อวานนั้น เลิกเลียนมาแล้ว หอั้นกะเลยกับบ้าน มาเอาหมาหอั้นสิพามันไปแล่นเหล้น อยู่สะหนามหญ้า อยู่โลงเลียนพุ้นหละ มื้อวานนั้นกะพามันไปแล่นเหล้น โอ๊ย หมากะมึนคักมึนแน่ พามันไปเหล้น ไปหาหมู่พุ้นหละ หาหมู่หมามันคือกันหละ หมู่ของข้อยกะเลี้ยงหมาคือกัน มีสี่ห้าคนพุ้นหละ พากันเลี้ยง คนละโตสองโต เลี้ยงแล้วกะมาเหล้นอยู่นำกันบัดหนิ เลี้ยงอยู่ในหอั้น เอามาหอั้นเหล้นอยู่สะหนามหญ้านั้นหละ อยู่สะหนามหญ้า [...] อยู่โลงเลียนนั้นหละ แล้วกะเอาหมาเหล้นนำกันบัดหนิ โอ๊ย หมาพ้อกันกะม่วนกุ่บ แล้วบัดนี้มันพ้อกันหนะ หลายโตเนาะ กะมีความสุข แล้วหมาได้แล่นเหล้นนำกัน แล่นยอกกัน ก่องแก่งอยู่ แล่นอยู่นำสะหนามหญ้านั้นหละ โตหนึ่งกะแล่นไปทางซ้าย โตหนึ่งกะแล่นไป[ทาง]ขวา โตหนึ่งกะแล่นยอกกัน แล่นเหล้น มึนคักมึนแน่

บัดนี้หมาของข้อยบัดหนิ โตนั้นหละ โตตาฮักนั้นหละ มึนกว่าหมู่บัดหนิ แล่นไปใสบ่แล่น แล่นลงคองน้ำพุ้นหนะ โอ๊ย คองน้ำน้อยดอกว่า แต่ว่า มันกะคองใหญ่พอสมควนหนิหละ มันกะแล่นลงไป เกียกขี้ตมล้อมอ้อมขึ้นมาบัดหนิ โอ๊ย มึนคัก มึนแน่ บ่ฮู้จักความหลาย หมาหนิกะเดย เกียกขี้ตมล้อมอ้อมขึ้นมาบัดหนิ โอ๊ย ข้อยกะสูนวะสั้นหละ ใจฮ้ายวะสั้น ด่ามันวะสั้นแหล้ว บ่ให้มันเหล้นอีกซ้ำแหล้ว พามันกับบ้านซ้ำ พามันกับบ้านไปล้างตนล้างโต ล้างขนมันออกนั้นหละ ขี้ตมมันบ่เป็นตาเบิ่งเนาะ ขี้ตม เกียกขี้ตมแล้วกะ โอ๊ย สูนวะสั้น เทิงสูนให้หมา เทิงสูนให้เจ้าของว่าพามันไปเหล้นอยู่นั้น ใก้คองน้ำเนาะ กะเลยพามันมาอาบน้ำ แล้วกะ [...] สะอาดคือเก่าหละ ตาฮักคือเก่าเนาะ แล้วกะมื้อหลังกะพามันไปคือเก่านั้นหละ อันนี้กะมาเว้าให้ฟังซื่อๆ ว่าพามันไปเหล้น มันมึนหลายเนาะ

Stories — Childhood memory: jumping off a tree branch into a pile of straw, branch breaks

มีมื้อหนึ่งเนาะ แต่โดนนั้นหละ แต่โดนเติบ แต่หลายปีแล้วหละ ตั้งแต่พุข้าเป็นเด็กน้อยพุ้นหละ ตั้งแต่เป็นเด็กน้อย อายุพุ้นหละมาลาวๆ หอั้น สิบปี สิบเอ็ดปีพุ้นหละเนาะ จักปีเกาะ สิบปี สิบเอ็ดปีพุ้นหละ เป็นสิบปีคืนหลังพุ้นหละ ตั้งแต่เป็นเด็กน้อย เป็นเด็กน้อยเด็กเอ่ยพุ้นหละ พากันเหล้นกันเนาะ ตามปะสาเด็กน้อยหละ โอ๊ย เด็กน้อยอยู่บ้านกะหลายกะด้อกะเดี้ย หมู่กันหนิหละ ตั้งแต่เป็นเด็กน้อยเนาะ กะหมู่หลายเนาะ สะหมัยแต่กี้เด็กน้อยในหมู่บ้านหนิ หลายเติบเด่ะเด็กน้อยหนิ เป็นซาวพุ้นหละ ซาวกะคือยี้สิบพุ้นหละ เป็นยี้สิบสามสิบคนพุ้นหละ เด็กน้อยในหมู่บ้านนั้น หลายคัก

พากันเหล้นมื้อนั้น พากันซวนกันไปเหล้น ไปเหล้นอี่หยังบุ ไปเหล้นอี่หยัง บ่เหล้น พากันได้ปีนกกไม้ ไปปีนหอั้น ไปเหล้นหญ้มหอั้น กกไม้ ต้นอี่หยังเกาะ เขาเอิ้นว่าหอั้น ต้นผักกะเสดติ ต้นผักกะเสดเนาะ ไปพากันไปปีนเหล้น โอ๊ยตาอยากหัวหลาย คิดพ้อแล้วกะเดย คิดพอแล้วกะอยากหัวเนาะ ไปพากันไปปีนเหล้น สี่ห้าคนพุ้นแหล้ว มื้อนั้นหอั้น ปีนขึ้นไปต้นนั้น ผักกะเสดกะต้นน้อยเนาะ ต้น[...] ลำบ่ใหญ่ปานใด

พากันขึ้นสี่ห้าคน ขึ้นแล้วกะหญ้ม [...] เหล้นพุ้นแหล้ว ขึ้นเหล้นเพาะว่าหอั้น อยู่ข้างกกหอั้น ผัก ผักอี่เสดหนะ ต้นผักอี่เสด แล้วมันสิมีหอั้น กองเฟียงเนาะ กองเฟียงกองบักใหญ่หนึ่ง เด็กน้อยกะแล่นเหล้น บางคนกะเหล้นอยู่อ้อมกองเฟียงนั้นหละ แล่นเหล้น แล่นซ้าย แล่นขวา โดดซ้าย โดดขวา โดดอยู่เทิงกองเฟียงนั้นหละ ม่วนหลาย ม่วนคัก

ซุมขี้มึนบัดหนิ ซุมขี้มึนกะไปปีนหอั้นกกผักอี่เสด จักปีนจั่งใด หญ้มซ้าย หญ้มขวา บางคนกะโดดใส่กองเฟียง บางคนกะโดดลงข้างล่าง โดดซ้าย โดดขวา ปีนขึ้นเทิงโดด ปีนขึ้นเทิงโดดเนาะ โดนเติบ บัดนี้พอฮอดหอั้น โดนเติบ บัดนี้หอั้น ต้นไม้มันกะสิหักตั๊วะบัดหนิ ต้นไม้ ผักอี่เสด ต้นที่ ที่มันขึ้นนั้นหละ สี่ห้าคนนั้นหละ มึนคักมึนแน่แต่กี้หนะ หักลงมาบัดหนิ ยืนอยู่เทิงนั้นสี่ห้าคนพุ้นหนะ ง่าผักอี่เสดหักลงมา ตกเอ้ม! ลงมา ตก เจ็บวะสั้น แล้วพากันให้ก้ากๆ ไปหาพ่อหาแม่บัดหนิ

กองเฟียงกะบ่ได้เหล้นซ้ำ ต้นไม้นั้นกะหักซ้ำ บ่มีพุใดได้ขึ้นอีกบัดหนิ พากันให้แข่งกัน ไปหาพ่อแม่บัดหนิ ถืกตีซ้ำ พ่อแม่กะตีซ้ำว่ามึนหลาย ไปเฮ็ดหญังบ่เฮ็ด ไปปีนกกไม้ ตกลงมาให้ก้ากๆ ได้เป็นแผเป็นเอ่ย เจ็บโตซ้ำ เทิงถืกพ่อแม่ตีอีก บัดนี้กะบ่ได้ไปขึ้นอีกดอก บ่มีกกไม้ กกไม้กะได้หักแล้ว บ่ได้ขึ้นอีกดอกบัดหนิ

มื้อหลังมื้อใหม่กะสิหาเหล้นแนวใหม่พุ้นหละ บ่มีหม้องขึ้นแล้ว กก [...] ไม้ กกผักอี่เสดอยู่ข้างกองเฟียง หม้องที่สิโดดลงกองเฟียงหนะกะบ่มีแล้ว กะสิได้หาเหล้นแนวใหม่ต่อไปนี้เนาะ

Basic vocabulary — Page 03 — Series B, pictures 12-17: book, book shelf, to take, to open, to read, to close, to put away


12
นี้คืออี่หยัง อันนี้เป็นหนังสือ หนังสือเหล้มบักใหญ่หนึ่ง เหล้มสีเขียว หนาตึ่บเอาโลด
หนังสือมีไว้เฮ็ดหญัง หนังสือกะมีไว้ถ้าอ่าน เอาไว้ถ้าให้ความลู้ ขั้นเฮาเปิดเบิ่งหนังสืออันนั้น หลือว่าเปิดอ่านหนังสืออันนั้น เฮากะสิมีความลู้เกี่ยวกับความลู้ที่มันมีอยู่ในหนังสืออันนั้น
แล้วหนังสือกะมีแนวขั้นหนังสือพ้อม สีแดงนั้นหละ เอาไว้ถ้าขั้นหนังสือ สมมุดว่าเฮาอ่านฮอดหน้านั้นแล้ว เฮากะเอาแนวขั้นหนังสือขั้นไว้ ญามแบบว่าเฮาเซาอ่านแล้ว หลือว่าอ่านฮอดหน้านั้น แล้วเฮาสิพักเบก หลือว่าบ่อยากอ่านอีกแล้ว สิกับมาอ่านมื้อใหม่ เฮากะเอาแนวขั้นหนังสือนั้นมาขั้นไว้ แล้วพอมื้อหลังเฮามาอ่าน เฮากะสิฮู้แล้วว่า เฮาฮอดหม้องนั้นแล้ว เฮาต้องอ่านต่อหม้องนั้น แล้วเฮากะเปิดหม้องที่เฮาขั้นไว้นั้นหละ เอาแนวขั้นสีแดงนั้นหละขั้นไว้ อันนี้กะคือขั้นแนวขั้นหนังสือ

13
เขากำลังเฮ็ดหญัง เขากำลังสิเอาหนังสือ
เอาหนังสืออยู่ใส กะเอาหนังสืออยู่ในซั้นวางหนังสือ
เขาสิเอาหนังสือไปหญัง เขากะอาดสิเอาหนังสือนั้นไปอ่าน เขากะเลยสิเอาหนังสือนั้นไป
หนังสืออยู่เทิงซั้นนั้นมีจักเหล้ม กะมีหลายเหล้มอยู่ มีห้าหกเหล้มพุ้นหนะ เทิงสีซมพู สีเขียว สีแดง สีเหลียง สีฟ้า หลายเหล้มอี่หลีวางเฮียงกันอยู่

14
เขากำลังเฮ็ดหญัง เขากำลังเปิดหนังสือ
เขาเปิดหนังสือเฮ็ดหญัง เขากะอาดสิอ่านหนังสือ เขากะเลยเปิดหนังสือ
เขาเปิดหนังสือจักเหล้ม เปิดเหล้มเดียว เปิดเหล้มเดียวข้อหล้อ เหล้มสีเขียว มือข้างหนึ่งกะเปิดไปอีกฝั่งหนึ่ง มือข้างหนึ่งกะเปิดไปอีกฝั่งหนึ่ง
แล้วอี่หยังอยู่ตงกางหนังสือนั้นสีแดงอันนั้นกะเป็นแนวขั้นหนังสือ เป็นแนวขั้นหนังสือเพื่อที่ว่าสิเอาไว้ถ้าขั้นหนังสือ ขั้นหน้านั้น ขั้นหน้านี้

15
เขากำลังเฮ็ดหญัง เขากำลังอ่านหนังสือ
เขาอ่านหนังสืออยู่กับใผ เขาอ่านหนังสืออยู่พุเดียวของเขานั้นหละ เขาอ่านอยู่พุเดียว
แล้วเขาอ่านหนังสืออยู่ใส เขาอาดสิอ่านอยู่โลงเลียน อาดสิอ่านอยู่บ้าน หลือว่าอาดสิอ่านอยู่ห้องสะหมุดกะได้
เขาอ่านหนังสือจักเหล้ม เขากะอาดสิอ่านหนังสือเหล้มเดียว เพาะว่าเฮาเห็นเขาจับหนังสืออยู่เหล้มเดียว บ่ได้มีหลายเหล้ม

16
เขากำลังเฮ็ดหญัง เขากำลังปิดหนังสือ เขาพุนี้กำลังปิดหนังสือ
เขาปิดหนังสือเฮ็ดหญัง เขากะอาดสิบ่อ่านแล้ว หลือว่าอาดสิเซาอ่านแล้ว เขากะเลยปิดหนังสือไว้ เพื่อที่ว่าอาดสิเอาไปเก็บ หลือว่าเอาไปเมี้ยนหม้องที่เขาเอามา

17
เขากำลังเฮ็ดหญัง เขากำลังเอาหนังสือไปเก็บไว้ซั้นวางหนังสือ
เป็นหญังเขาคือเอาหนังสือไปเก็บไว้ซั้นวางหนังสือ กะเพื่อว่าสิให้มันเป็นเลียบล้อย เป็นละเบียบเลียบล้อย เขากะเลยสิเอาไปเก็บไว้ซั้นวางหนังสือ เพื่อที่ว่าสิให้มันเบิ่งงาม หลือว่าเป็นละเบียบคือเก่า
ขั้นเขาเอาหนังสือออกมาแล้ว บ่ไปเก็บไว้หม้องเก่า คนอื่นที่เขาสิมาเบิ่ง หลือว่าอาดสิเอามาอ่าน เขากะหาเหล้มนั้นบ่พ้อ หาเหล้มนี้บ่พ้อ เพาะว่าคนที่เอาไปอ่านนั้น บ่มาเก็บไว้หม้องเก่า เอาไปอ่านแล้วกะเอาไปถิ้มไว้หม้องอื่น เอาไปวางไว้หม้องอื่น คนอื่นกะบ่สามาดหาเหล้มหนังสือนี้ได้