Translations are evolving and should be taken as indicative only! For a guide to the tones and the spelling system used to write this variety of Isaan (Khon Kaen), see the "tone guide" on the overview page.

Tones: M = mid, HR = high-rising, H = high, HF = high-falling, LF = low-falling

IsaanPronunciationTonesThaiEnglish/Notes#occ
ห้า ha: LF ห้า five 64/22

Link to overview page
Link to dictionary

Basic vocabulary — Page 27 — Series A, pictures 19-20: clock/watch, time, minute


19 อันนี้คือนาลิกา เวลาเที่ยงหนึ่งนาที
20 อันนี้คือนาลิกา เวลาเที่ยงห้านาที

Basic vocabulary — Page 29 — Series A, pictures 11-12: star, moon, sky


11 นี้คือลูบดาว ลูบดาวห้าเหลี่ยม
12 อันนี้คืออี่เกิ้งกับดาว อยู่เทิงท้องฟ้า

Basic vocabulary — page 14 — Series A, pictures 11-14: clock, hour, minute


11 นี้คือนาลิกา เวลาห้าโมงตง
12 เวลาห้าโมงยี้สิบนาที*
13 เวลาห้าโมงเคิ่ง
14 เวลาห้าโมงสี่สิบห้านาที

*should be เวลาห้าโมงสิบห้านาที

Vocabulary recordings — Planting rice 08

กานดำนี้กะเอาต้นก้าหละปะมานสามสี่ต้นจุ่มลงไป สามสี่ต้นหลือว่าสี่ห้าต้นกะได้ แล้วแต่คนสิจับได้ต้นก้าต้นนั้นไปดำ กานดำเหน้กลงไป เหน้กใส่ขี้ดินเนาะ นิ้วโป้กับนิ้วซี้เฮานี้หละจับตง ตงกกต้นก้านั้นหละ แล้วกะเสียบลงไปในขี้ดิน หลือว่าเหม้ลงไปในขี้ดินเนาะ เพื่อที่สิให้ฮากก้า ฮากต้นก้านั้นติดลงไปในขี้ดิน เพื่อที่สิให้มันเกิดขึ้นมา หลือว่าใหญ่ขึ้นมาเนาะ กานดำนี้กะคือวางละยะคือตาข่ายนี้หละเนาะ ลูบตาข่ายกะ เหน้กใส่ขี้ดิน บ่ต้องถี่หลาย กะห่างพอสมควน เพื่อที่สิให้เข้ามันใหญ่ บ่แออัด หลือว่าต้นกะ ต้นเข้า บ่ให้มันหนาเกินไปเนาะ พอเฮาดำเลียบล้อยแล้ว เฮากะถ้าจนมันใหญ่ จนได้เกี่ยวเข้าพุ้นหละเนาะ

Vocabulary recordings — เข้าแลง

ต่อไปกะสิเป็นคำว่า เข้าแลง เนาะ เข้าแลงนั้นกะหมายถึงว่า เข้าญามมื้อแลง เข้าคาบญามมื้อแลง ตอนค่ำหลือว่าญามมื้อแลงฮอดตอนดึกนั้นเองเนาะ กะสิเอิ้นว่าเข้าแลง อาดสิเป็นสี่โมงแลง ห้าโมงแลง หกโมงแลง หลือว่าทุ้มหนึ่ง สองทุ้ม สามทุ้มจั่งซี้เนาะ กะสิเอิ้นว่าเข้าแลงเนาะ กะ

กินเข้าแลงแล้วติ
กินเข้าแลงไป่
ได้หญังกินแลงหละ
ได้อี่หยังกินเข้าแลงน่อ

กะสิเว้าปะมานนี้ กะสิเอ่ยปะมานนี้เนาะ แล้วกะต่อไปกะสิเป็นญามมื้อคืนแล้ว ขั้นหลังจากแลงแล้ว หลือว่าค่ำแล้ว กะสิเป็นญามดึกต่อไปเนาะ คนอี่สานส่วนมากสิบ่อยู่ฮอดดึกบ่นั้น สิบ่มีเข้าที่มีคาบต่อไปอีก เพาะว่าคนอี่สานสิเข้านอนเล็ว หลือว่าบ่เฮ็ดอี่หยังเลยเวลาดึกไปฮอดปานนั้นเนาะ แล้วกะคนอี่สานกะสินิยมพากันนอนเล็ว หลือว่าพากันฟ้าวนอนนั้นเองเนาะ เพาะว่ามื้อใหม่สิได้เฮ็ดงาน ไปเฮ็ดงาน หลือว่าไปเฮ็ดไฮ่เฮ็ดนา แล้วกะสิมีเข้าเซ้าต่อไป

Basic vocabulary — page 18 — Series B, pictures 18-20: hand, thumb, index finger


18
นี้คืออี่หยัง นี้คือมือ อันนี้เป็นมือ เป็นมือของคน
ทุกคนต้องมีมือ ต้องมีมือสองข้าง แต่ละคนต้องมีมือสองข้าง
มือเอาไว้เฮ็ดหญัง เอาไว้ใซ้งานจั่งใด มือมีปะโยดบ่ ปะโยดของมือมันมีบ่ กะมีอยู่ มือมีปะโยดหลาย มือมันสำคันคัก สำคันอี่หลี
ขั้นคนบ่มีมือ กะบ่สามาดจับสิ่งของได้ บ่สามาดจับอันนี้ บ่สามาดจับอันนั้นได้
เพาะสะนั้นแล้ว มือสำคันหลาย มือเฮาสามาดจับสิ่งของได้ จับอันนั้น จับอันนี้ หลือใซ้เฮ็ดงาน หลือใซ้เฮ็ดหญังกะได้
แต่ละคนกะสิมีมือสองข้าง มือแต่ละข้างกะสิมีห้านิ้ว
มือหนึ่งข้างกะสิมีห้านิ้ว มีนิ้วโป้ มีนิ้วซี้ มีนิ้วกาง มีนิ้วนาง แล้วกะมีนิ้วก้อย
มือของคนเฮามีสองข้าง กะสิมีนิ้วห้านิ้วคือกัน

19
นี้คืออี่หยัง นี้คือนิ้ว
อันนี้เป็นนิ้วอี่หยัง อันนี้เป็นนิ้วโป้ เป็นนิ้วโป้

20
นี้คืออี่หยัง อันนี้กะเป็นนิ้วคือกัน อันนี้กะเป็นนิ้ว เป็นนิ้วซี้ คนเฮาเอิ้นนิ้วนี้ว่านิ้วซี้

Basic vocabulary — Page 29 — Series B, pictures 11-12: star, moon, sky


11
อันนี้คืออี่หยัง อันนี้เป็นลูบดาวเนาะ
กะสิมีห้าเหลี่ยมนำกันเนาะ ดาว ปกกะติแล้วกะสิมีห้าเหลี่ยมเนาะ กะมีห้ามุมห้าเหลี่ยมเนาะ เป็นลูบดาวเนาะ
แล้วลูบดาวหนิมันสีอี่หยัง ลูบดาวหนิเป็นสีขาวเนาะ เป็นสีขาว ขาวจุ่นพู่นอยู่ สีงามซ้ำแมะเนาะ สีบ่สดใส บ่ดำ บ่มืด บ่มัวเนาะ
แล้วลูบดาวหนิมีไว้เฮ็ดหญัง อาดสิมีไว้ถ้าปะดับตกแต่งในญามจัดบอดหลือว่าจัดห้องอี่หยัง เฮากะสามาดเฮ็ดเป็นลูบดาว เฮ็ดลูบต่างๆ หลือว่าลูบดาวแบบนี้กะได้

12
อันนี้คืออี่หยัง อันนี้เป็นอี่เกิ้งเนาะ อี่เกิ้งสีเหลียง เหลียงเอ้อเฮ้ออยู่เนาะ
เป็นลูบอี่เกิ้งเคิ่งหนึ่ง เขาเอิ้นว่าอี่เกิ้งเคิ่งเสี้ยว หลือว่าดวงจันเคิ่งเสี้ยว
กะอยู่เทิงท้องฟ้าพุ้นหละวา แล้วกะอยู่ล้อมลอบด้วยดวงดาวเนาะ กะสิมีดาวหลายดวงล้อมอี่เกิ้งนี้ไว้อยู่ อาดสิอยู่เทิงฟ้า หลือว่าอาดสิติดไว้นำฝาผะหนังหม้องใดหม้องหนึ่งกะได้ เพื่อตกแต่งให้มันเบิ่งงามตา งามหูงามตา หลือว่าให้มันมีสิ่งที่ปะดับตกแต่งเนาะ

Basic vocabulary — Page 27 — Series B, pictures 19-20: clock/watch, time, minute


19
อันนี้คืออี่หยัง อันนี้เป็นนาลิกา
นาลิกาเป็นแบบใด นาลิกากะเป็นวงกม เป็นอันวงกม
นาลิกามีหน้าที่หญัง นาลิกากะมีหน้าที่บอกเวลา บอกให้เฮาฮู้ว่าจักโมงแล้ว
กะสิมีอยู่สามเข็มนำกันเนาะ เข็มอันหนึ่งกะสิเป็นเข็มใหญ่ เข็มใหญ่กะสิเป็นเข็มอันใหญ่สั้นเป็นเข็มบอกซั่วโมง แล้วเข็มอีกเข็มหนึ่งเป็นเข็มญาวใหญ่หน่อยหนึ่ง ญาวกะสิเป็นเข็มบอกนาที แล้วเข็มหนึ่ง เข็มน้อยดอก เข็มน้อยญาวเป็นเข็มบอกวินาที
จักโมงแล้ว ตอนนี้สิบสองนาลิกาหนึ่งนาที

20
อันนี้คืออี่หยัง อันกะเป็นนาลิกา เป็นนาลิกาบอกเวลา
แล้วเฮาสามาดฮู้ได้บ่ว่า ตอนนี้จักโมงแล้ว กะฮู้ได้ เพาะว่าตอนนี้เข็มใหญ่มันซี้ไปเลขสิบสอง เข็มน้อยหลือว่าเข็มนาทีมันซี้ไปเลขหนึ่ง กะสิเฮ็ดให้ฮู้ว่าตอนนี้เวลาสิบสองนาลิกาห้านาที
ขั้นตอนนี้สิบสองนาลิกาเป็นญามมื้อคืน กะสะแดงว่าเที่ยงคืน
ขั้นสิบสองนาลิกาอยู่เวลากางวัน หลือว่าญามแก้ง กะสะแดงว่าตอนนั้นตอนเที่ยง หลือว่าเที่ยงวัน หลือว่าเที่ยงมื้อนั้นหละเนาะ

Basic vocabulary — page 20 — Series B, pictures 14-15: knife, blood, finger, needle, to hurt


14
เกิดอี่หยังขึ้น มีดบาดนิ้ว มีดบาดมือของเขา มีดมันกำลังบาดมือของเขา
คือฮู้ว่ามีดบาดมือของเขา มันกะมีเลียด มีเลียดไหลออกมาจากนิ้วของเขา จากนิ้วมือของเขานั้นหละ
แล้วมีดอันนี้มันคมบ่ มีดอันนี้มันเป็นตาคมบ่ กะเป็นตาคมอยู่ ขั้นมีดมันบ่คม มันกะบ่บาด
แล้วเขาเป็นตาเจ็บบ่ กะเป็นตาเจ็บอยู่ เพาะว่ามีดมันบาดมือของเฮา เฮากะต้องเจ็บ
มือของเฮานี้สิมีจักนิ้ว กะสิมีห้านิ้ว มีนิ้วโป้ แล้วกะมีนิ้วซี้ แล้วกะมีนิ้วกาง มีนิ้วนาง แล้วกะมีนิ้วก้อย แต่ว่ามีดบาดอยู่นิ้วซี้ของเขา

15
เกิดอี่หยังขึ้น เขากำลังใซ้เข็มสีดยาดูดเลียดออกมา
เขาใซ้อุปะกอนอี่หยัง เขาใซ้เข็ม เป็นเข็มสีดยา แล้วกะดูดเลียดของเขาออกมา
แล้วพุใดเป็นพุเฮ็ด อาดสิเป็นหมอ หลือเป็นพะยาบาน หลือเป็นคนที่เซี้ยวซานด้านนี้
เขาเฮ็ดเฮ็ดหญัง เขาอาดสิเอาเลียดไปตวด หลือตวดสุกขะพาบ หลือตวดหาโลกบางสิ่งบางอย่างกะได้
แล้วเขาเจ็บบ่ กะเป็นตาเจ็บอยู่ แต่ว่ากะเจ็บแป่บเดียว เจ็บบ่โดน เจ็บตอนที่เอาเข็มเข้าไปแป่บเดียว
แล้วเขาเฮ็ดนี้อยู่ใส อันนี้กะบ่ฮู้คือกัน อาดสิอยู่โลงบาน หลืออยู่คิหนิก หลืออยู่ใสบางที่บางหม้องกะได้

Basic vocabulary — page 13 — Series B, pictures 05-07: leg, foot, knee


5
นี้คืออี่หยัง นี้คือขา ขาของคน
ขาของคนมีสองข้าง ขาแต่ละข้างกะสิมีส่วนปะกอบหลายจุดหลือหลายอย่าง ขาข้างหนึ่งกะสิมีหัวเข่าพ้อม มีตีนพ้อม มีตุ้มม้องพ้อม แล้วกะสิมีนิ้วตีนพ้อม
นิ้วตีนแต่ละข้างสิมีห้านิ้ว หนึ่งขากะสิมีห้านิ้ว อีกหนึ่งขากะสิมีห้านิ้ว
แล้วกะสิมีเล็บตีนพ้อม เล็บตีนสิมีอยู่ซู่นิ้ว
แล้วใต้สุดของขากะคือตีน แล้วกะสิมีฝ่าตีนพ้อม
ขาของคนเอาไว้เฮ็ดหญัง ขาเอาไว้ถ้าญ่าง ซู่คนสิมีขาเอาไว้ถ้าญ่าง
ขั้นบ่มีขากะญ่างบ่ได้ สัดกะคือกัน ขั้นสัดบ่มีขากะญ่างบ่ได้
ขั้นมีขากะสิญ่างได้ แต่สัดบางโตกะบ่มีขา แต่กะสามาดคานไปข้างหน้าได้

6
นี้คืออี่หยัง นี้คือตีน ตีนของคน
มีวงเล็บสีแดงวงอยู่ตีนของคน
นิ้วตีนกะสิมีนิ้วพ้อม มีนิ้วห้านิ้ว มีเล็บพ้อม
เขาใส่เกิบบ่ บ่ เขาบ่ได้ใส่เกิบ เขามาตีนเปิ่ม บ่มีเกิบเลย บ่ได้ใส่เกิบมาจ้อย

7
นี้คืออี่หยัง นี้คือขา
มีลูกสอนสีแดงซี้ไปใส่หัวเข่าของเขา อันนี้กะสิเป็นหัวเข่า อันที่ลูกสอนซี้เข้าไปกะสิเป็นหัวเข่า
หัวเข่ากะสิสามาดพับได้ เป็นข้อต่อที่สามาดนั่งได้ เฮาสินั่งพับเพียบ หลือนั่งอี่หยังกะได้ เพาะว่าหัวเข่านี้มันงอได้ หลือพับได้

Basic vocabulary — Page 33 — Series B, pictures 09-10: Where is? What time is it?


9
เขากำลังเฮ็ดหญังกัน มีพุหญิงกับพุซาย เขากำลังคุยกัน หลือว่ากำลังเว้ากัน
ในลูบพาบนั้นพุซายกำลังถามพุหญิงว่า โลงบานอยู่ใสคับ แถวนี้มีโลงบานบ่คับ ฮู้จักโลงบานบ่คับ ว่าโลงบานอยู่ใสคับ
พุหญิงอาดสิตอบว่า ฮู้จักอยู่จ้า โลงบานไปทางพุ้นจ้า โลงบานไปทางพี้จ้า โลงบานอยู่บ่ไกจากนี้ดอกจ้า
โลงบานอยู่ข้างหน้าเด้อจ้า โลงบานญ่างไปทางพุ้นเด้อจ้า
แล้วแต่ว่าเขาสิตอบแบบใด หลือว่าแล้วแต่ว่าพุหญิงสิตอบแบบใด ขั้นฮู้ว่าไปทางซ้าย กะตอบว่าทางซ้าย ขั้นฮู้ว่าไปทางขวา กะตอบไปทางขวาเนาะ
ขั้นฮู้ว่าต้องไปทางพุ้น ทางพี้ ทางนั้น กะอะทิบายให้เพิ่น กะเว้าให้เพิ่นฟังว่า ต้องไปจั่งซั้นจั่งซี้เนาะ

10
มีคนสองคน เขากำลังเฮ็ดหญังกัน มีพุหญิงกับพุซาย เบิ่งซงแล้ว พุซายอาดสิอยากฮู้เวลาว่ามันจักโมงแล้ว
อาดสิถามพุหญิงว่า ตอนนี้จักโมงแล้วคับ ตอนนี้จักโมงแล้วน้อ ฮู้จักเวลาบ่คับว่าตอนนี้จักโมงแล้ว ตอนนี้เวลาเท่าใดแล้วคับ ฮู้จักบ่คับ
อันนี้กะเป็นคำเว้าของคนที่ถาม อาดสิใส่ค้าหลือว่าใส่คับกะได้
แล้วกะคนตอบ อาดสิตอบไปว่า ตอนนี้เวลาเท่านั้นเท่านี้ สิบโมงแล้วจ้า เที่ยงแล้วจ้า ทุ้มหนึ่งแล้วจ้า หกโมงเซ้า เจ็ดโมงเซ้า หลือว่าเท่าใด แล้วแต่เวลาว่าตอนนั้นเท่าใดกะตอบไปตามเวลาเท่านั้น
เที่ยงกะตอบเที่ยง บ่ายกะตอบบ่าย ห้าโมงกะตอบห้าโมงเนาะ ว่าตอนนั้นจักโมงแล้ว เฮากะตอบไปตามที่เขาถามมาเนาะ

Basic vocabulary — page 14 — Series B, pictures 11-14: clock, hour, minute


11
นี้คืออี่หยัง นี้คือนาลิกา นาลิกาเป็นซงวงกม เป็นลูบวงกม
นาลิกาสีขาว ขาวจุ่นพู่นอยู่ ขอบนาลิกากะเป็นสีดำ เป็นวงกมคือกัน
นาลิกามีไว้เฮ็ดหญัง นาลิกามีไว้ถ้าเบิ่งเวลา ไว้ถ้าบอกเวลา
ขั้นมีนาลิกา เฮากะสิฮู้ว่า ตอนนี้จักโมงแล้ว ตอนนี้เวลาเท่าใดแล้ว เฮากะสิฮู้ เพาะว่าเฮาเบิ่งนาลิกา แล้วเฮากะสิลู้เวลา
ตอนนี้นาลิกาจักโมงแล้ว ตอนนี้นาลิกาห้าโมงตง หลือห้านาลิกาพอดี
ตอนนี้เข็มนาลิกาอ่วยไปทางใด ตอนนี้เข็มนาลิกาอ่วยไปใส่เลขห้า เข็มใหญ่อ่วยไปทางเลขห้า เข็มน้อยอ่วยไปหม้องเลขสิบสอง
สะหลุบแล้วว่า เฮากะสิฮู้เวลา เฮากะสิเบิ่งเวลาออก เพาะว่าเฮาเบิ่งจากเข็มนาลิกา มันอยู่หม้องใด มันอยู่เลขใด เฮากะสิเบิ่งเวลาถืก

12
นี้คืออี่หยัง นาลิกาคือกันแม่นบ่ แม่น อันนี้กะนาลิกาคือกัน อันนี้กะเป็นนาลิกา
ตอนนี้เวลาจักโมงแล้ว ตอนนี้เวลาห้าโมงสิบห้านาที เพาะว่าเข็มนาลิกา เข็มใหญ่มันอ่วยไปใส่เลขห้า เข็มน้อยนาลิกามันอ่วยไปใส่เลขสาม สะหลุบแล้วเวลากะห้าโมงสิบห้านาที

13
ตอนนี้เวลาจักโมงแล้ว ตอนนี้เวลาห้าโมงเคิ่ง หลือเวลาห้าโมงสามสิบนาทีนั้นหละ

14
ตอนนี้เวลาจักโมงแล้ว ตอนนี้เวลาห้าโมงสี่สิบห้านาที
เข็มนาลิกาเข็มใหญ่มันยังอยู่เลขห้าอยู่ แล้วเข็มน้อยมันกะอยู่ที่เลขเก้า สะหลุบแล้วเวลากะห้าโมงสี่สิบห้านาที
แล้วตอนนี้เวลามันฮอดหกโมงไป่ บ่ มันทันได้ฮอดหกโมงอยู่ ตอนนี้มันห้าโมงกว่าหนึ่ง บ่ทันได้ฮอดหกโมงเลย
ขั้นเข็มนาลิกาเข็มใหญ่อยู่เลขหก แล้วเข็มน้อยเลยเลขสิบสองไป มันกะสิฮอดหกโมง ตอนนี้เหลียเวลาอีกสิบห้านาที มันจั่งสิฮอดหกโมง หลือหกนาลิกานั้นหละ

Basic vocabulary — Page 28 — Series B, pictures 18-20: warm/hot, just right, cold, degree


18
อันนี้คืออี่หยัง อันนี้เบิ่งแล้วกะสิเป็นหน้าฮ้อน หลือว่าลึดูฮ้อนเนาะ
อาดสิเป็นลึดูแล้งลึดูฮ้อนเนาะ เพาะว่าเบิ่งองสามาแล้วกะสูงเติบ ตั้งสี่สิบองสา
เบิ่งลักสะนะ เบิ่งซงแล้วฮ้อนคัก ฮ้อนคักอี่หลี
สำหลับอยู่พากอี่สานกะสิฮ้อนเติบเนาะ สี่สิบองสาหนิกะสิเฮ็ดให้ผิวไหม้ได้จักหน่อยพุ้นแหล้ว ขั้นตากแดดหลายเนาะ
แล้วหน้าฮ้อนหนิกะสิอยู่ปะมานเดียนมีนาเมสาไปเนาะ กะสิไปเลี้ยยๆ แล้วแต่มันสิฮ้อน ฮอดใส หน้าฮ้อนหลือว่าหน้าแล้ง กะสิอยู่ซ้วงปะมานนี้เนาะขึ้นไป หลือว่าจาก เลิ้มจากเดียนนี้ขึ้นไปเนาะ

19
อันนี้เป็นจั่งใด อากาดเป็นจั่งใด อันนี้กะสิเป็น อาดสิอากาดบ่ฮ้อนหลาย บ่หนาวหลาย
ปะมานจักองสาหละหนิ ปะมานยี้สิบห้าองสาเนาะ กะบ่ถือว่าฮ้อนหลายหนาวหลาย อากาดกะสิพอดี
แต่ว่าสำหลับคนอี่สานหลือว่าคนไทยแล้วกะ ขั้นยี้บห้าองสากะสิหนาวน้อยเย็นน้อยเนาะ บ่ฮ้อนหลาย อากาดกำลังเย็น

20
อันนี้อากาดเป็นจั่งใด ตอนนี้อากาดกะซงหนาวหลาย
สำหลับคนไทยหลือว่าคนอี่สานเนาะ อากาดแบบนี้หนาวคัก เพาะว่าสิบองสานี้คือหนาวโพดโพ หนาวคัก หนาวแน่ หนาวอี่หลี
ทุกคนต้องห่มผ้า หลือว่าใส่เสี้ยแขนญาวหลายโต ซ้อนกันหลายโตเนาะ
ขั้นเป็นหน้าหนาวในพากอี่สาน กานที่ทุกคนสิได้เฮ็ดกะคือ ตั้งไฟ ตั้งไฟ หลือว่าจุดไฟ หลือว่าก่อกองไฟ แล้วกะมานั่งล่วมกัน หลือว่าอาดสินั่งอยู่พุเดียวกะได้
แล้วกะไปนั่งฝิงไฟ หลือว่านั่งข้างกองไฟ เพื่อที่ว่าสิให้มันเกิดความฮ้อนในโต บ่ให้มันหนาวคัก บ่ให้มันหนาวหลาย
แล้วบางคนกะสิใส่เสี้ยแขนญาวหลายโต หลือว่าสามสี่โต ห้าโต แล้วแต่คนสิใส่เนาะ เพาะว่ามันหนาวหลายคัก
ต้องเฮ็ดให้โตเจ้าของอบอุ่น หลือว่าบ่ให้มันเย็น บ่ให้มันหนาวหลายเนาะ

Basic vocabulary — Page 28 — Series B, pictures 11-15: alms bowl, monk, to open, food, to close


11
อันนี้คืออี่หยัง อันนี้เบิ่งซงแล้วกะสิเป็นบาดเนาะ เป็นบาดพะ บาดพะหนิหละ
บาดนี้มีหน้าที่หนะเอาไว้เฮ็ดหญัง พะกะสิมี กะสิเอาบาดนี้ไปไว้ถ้าบินทะบาดญามมื้อเซ้าเนาะ บินทะบาดอยู่นำหมู่บ้าน หลือว่าเอาไว้ถ้าใส่แนวกินกับชาวบ้านที่เอามาถะหวาย หลือว่าเอามาให้เนาะ กะสิเอาใส่บาดนี้ เป็นพาชะนะหลือว่าแนวที่สิใส่กับเข้ากับน้ำที่เพิ่นเอามาให้ หลือว่าชาวบ้านเอามาให้มาทานเนาะ

12
อันนี้คืออี่หยัง อันนี้กะเป็นพะเนาะ
เป็นพะลูบหนึ่ง กำลังถือบาดอยู่
จักว่าถืออยู่ใส อาดสิอยู่ในวัดหลือว่ากำลังญ่างบินทะบาดกะได้
ขั้นสิไปบินทะบาดหนิ สิไป[บินทะบาด]จั่งใด สิบินทะบาดจั่งใด กะไปบินทะบาดญามมื้อเซ้า ปะมานหกโมงเซ้าเนาะ หลือว่าตีห้า เพื่อที่สิไปบินทะบาดลอบหมู่บ้าน เพื่อที่สิให้ชาวบ้านชาวเอ่ยเนี้ย มาถะหวายเข้าถะหวายน้ำกับพะลูบนี้เนาะ
แล้วตอนนี้พะกำลังใส่อี่หยัง กะกำลังใส่ เขาเอิ้นว่าจีวอนเนาะ จีวอนสีส้ม
จีวอนนี้มีสีหญังแน่ กะแล้วแต่ว่าสีที่มันเป็น สีค้ายกับ โทนเดียวกันกับสีส้มเนาะ อาดสิเป็นสีส้ม สีเหลียง สีน้ำตานแก่ หลือว่าสีแดงแก่ สีแดงอ่อน กะแล้วแต่เนาะ เอากะสิปะมานนี้ สีโทนเดียวกันปะมานนี้เนาะ
แล้วพะเป็นหญังต้องโกนหัวโล้น อันนี้กะบ่แน่ใจกันเนาะ แต่ว่ากะ ฮู้แต่ว่าพะซู่องซู่ลูบเนาะกะต้องโกนหัวโล้น

13
พะลูบนี้กำลังเฮ็ดหญัง กำลังเปิดฝาบาด
เป็นหญังเขา เป็นหญังเพิ่นต้องเปิดฝาบาด กะอาดสิมีชาวบ้านหลือว่าพุคนมาถะหวายเข้าถะหวายน้ำในบาดนี้ เพิ่นกะเลยต้องเปิดบาด เพื่อที่สิลับเข้าลับน้ำจากชาวบ้านเนาะ

14
อันนี้กำลังเฮ็ดหญังอยู่ พะเนาะกำลังเปิดฝาบาดขึ้น เพื่อที่สิลับเข้าลับน้ำจากชาวบ้าน หลือว่าลับอาหานจากชาวบ้านที่เอามาถะหวาย กะสิมีชาวบ้าน หลือว่า เอิ้นว่ายาดโย๊มเนาะ มาถะหวายเข้าถะหวายน้ำในบาดนี้ กำลังยื่นแนวกิน หลือว่าเอาเข้าใส่ไปในบาดเนาะ

Basic vocabulary — Page 29 — Series B, pictures 06-07: ring, gold, to put on


6
อันนี้คืออี่หยัง อันนี้เป็นแหวน
เป็นแหวนทอง แหวนสีทองพ้อม เบิ่งลักสะนะแล้วกะอาดสิเป็นแหวนทองเลยเนาะ
แล้วแหวนทองนี้มีลาคาแพงบ่ กะแพงอยู่ กะแพงเติบเนาะ กะบ่แพงปานใด กะแล้วแต่ เขาเอิ้นว่าหญังเกาะ น้ำหนักทอง ลูบแบบทอง ขั้นน้ำหนักหลายกะแพง น้ำหนักหน้อยกะบ่แพง
ตอนนี้เนาะกะอาดสิแบบว่า บาทหนึ่ง เขาเอิ้นว่าบาทหนึ่ง กะสิลาคาอยู่ปะมานสองหมื่นบาทเนาะ
น้อยกว่าบาทหนึ่งกะสิมีสามสะหลึง สองสะหลึง แล้วกะหนึ่งสะหลึง แล้วกะเคิ่งสะหลึงเนาะ กะสิตามลาคาลงไป
เคิ่งบาทหลือว่าสองสะหลึงกะสิอาดปะมานหมื่นหนึ่ง สามสะหลึงกะสิปะมานหมื่นห้า ปะมานนั้นเนาะ ลาคาแล้วแต่ปะลิมาน แล้วแต่จำนวนของทองมันเนาะ
ทองหนิกะสิเป็นลาคาที่บ่แพงส่ำเพ็ด ขั้นเพ็ดกะสิลาคาแพงไปอีกลาคาหนึ่ง ทองกะสิลาคาพอปะมานที่เว้าไปเนาะ

7
เขากำลังเฮ็ดหญัง เบิ่งจากลักสะนะแล้วเขากำลังใส่แหวน ใส่แหวนทอง
กะสิมีมือพุหนึ่ง จับแหวน กำลังสิใส่ หลือว่าอาดสิเป็นมือของเขาเทิงสองข้าง อาดสิเป็นพุเดียวกัน กำลังใส่แหวนไปอีกข้างหนึ่งของเขาเนาะ
อาดสิเป็นฝั่งขวากำลังใส่แหวน แล้วอีกมือข้างซ้ายกำลังสิสุบแหวนไปใส่มือข้างขวา
เขาใส่แหวนเข้าไปในนิ้วใด เขาใส่แหวนเข้าไปในนิ้ว นิ้วนางเนาะ เขาเอิ้นว่านิ้วนาง คนกะสิมีห้านิ้ว มีนิ้วโป้ นิ้วซี้ นิ้วกาง นิ้วนาง นิ้วก้อย เนาะ
กานใส่แหวนกะสิมีกานบ่งบอกถึงสองลักสะนะ หลือว่าสองวิทีนำกันเนาะ ขั้นเขาใส่แหวนอยู่นิ้วนางกะสิหมายถึงว่าเป็นกานหมั้น หมั้นที่สิก่อนแต่งงาน ขั้นสมมุดว่ามีผัวเมีย สองคนเนาะ กำลังสิแต่งงานกัน แต่ว่าบ่ทันได้แต่ง หมั้นกันก่อน เพื่อที่ว่าสิไปแต่งงาน แต่ว่าในตอนนี้คือหมั้นกันก่อน กะสิใส่แหวนอยู่นิ้วนางเนาะ
แต่ว่าขั้นมื้อใดสองคนนี้อยากสิแต่งงานกัน อีกสองสามเดียนไปข้างหน้า ปากดว่าฮอดมื้อสองสามเดียนนั้นแล้ว สิแต่งงานกัน สมมุดว่าฮอดมื้อนี้ปึ่บ สิแต่งงานกันมื้อนี้ กะสิใส่แหวนนิ้วก้อย อันนั้นกะสิหมายถึงว่าขั้นแต่งงานกันกะใส่แหวนนิ้วก้อย ขั้นหมั้นกันให้ใส่แหวนนิ้วนาง

Basic vocabulary — Page 31 — Series B, pictures 14-17: morning, noon, afternoon, evening


14
อันนี้คืออี่หยัง อันนี้กะเป็นทัมมะซาดเนาะ กะเป็นบันญากาดญามมื้อเซ้าเนาะ กำลัง พะอาทิดกำลังสิ กำลังสิขึ้นจากดิน กำลังสิขึ้นไปเทิงฟ้าเนาะ กำลังสิลอยขึ้นๆๆ เนาะ
กะเป็นอากาดที่บอลิสุด หลือว่าเป็นอากาดที่บ่ฮ้อน
ส่วนมากแล้วคนสิมักอากาดญามมื้อเซ้าเนาะ เป็นอากาดที่สดซื้นหลือว่า[สดซื้น]เนาะ เพาะว่าพะอาทิดกำลังขึ้น มันบ่ฮ้อนปานใด เป็นอากาดที่เย็นเนาะ คนกะสิมักอากาดญามมื้อเซ้าเนาะ
แล้วกะเบิ่งทัมมะซาดหม้องนี้ แล้วกะมีพูเขาพ้อม มีต้นไม้หลายต้นพ้อม มีทองฟ้าสีฟ้าพ้อม โอ๊ย เป็นตาไปเนาะ อาดสิเป็นทัมมะซาดที่คนอยากไปหม้องนี้เนาะ

15
อันนี้คืออี่หยัง อันนี้กะเป็นทัมมะซาดเนาะ เป็นทัมมะซาด
อาดสิเป็นญามเที่ยง เป็นตอนเที่ยงเนาะ เพาะว่าพะอาทิดกำลังขึ้นเทิงทองฟ้าแล้ว อาดสิขึ้นฮอดกางๆๆ ทองฟ้าแล้ว
แล้วเฮาสิฮู้ได้จั่งใดว่าเป็นญามมื้อเซ้า หลือว่าเป็นญามเที่ยง หลือว่าตอนนี้มันญามเที่ยง เฮาสิฮู้ได้จั่งใด เฮากะเบิ่งง่ายว่าขั้นพะอาทิดตงหัวเฮา หลือว่าเฮาแนมขึ้นไปเทิงฟ้าเนี้ย แล้วพะอาทิดอยู่ตงหัวเฮาพอดี มันกะสิเที่ยงตงพอดี
ขั้นพะอาทิดมันหัวกะขึ้น มันสิเป็นญามเซ้า แต่ว่าขั้นพะอาทิดมันตกดินแล้วกะสิเป็นญามแลงเนาะ แต่ว่าตอนนี้พะอาทิดมันอยู่เทิงหัวเฮากะสิเป็นตอนเที่ยงพอดี
อากาดกะกำลังฮ้อน กำลังฮ้อนคักนั้นหละ บ่เย็น บ่หนาว แต่ว่าฮ้อนเนาะ เพาะว่าอาทิดมันกำลังขึ้นฟ้า

16
อันนี้คืออี่หยัง อันนี้กะเป็นทัมมะซาดเนาะ กะเบิ่งลักสะนะแล้วกะกำลังสิค่ำ
แต่ว่ากะสิเป็นญามบ่ายอยู่เนาะ กำลังปะมานบ่ายสาม บ่ายสี่ หลือว่าห้าโมงแลง ปะมานนี้เนาะ กำลังสิค่ำ พะอาทิดกำลังสิตกดิน
กำลังสิเบิดฮ้อนไป เพาะว่าพะอาทิดกำลังสิตกดิน กำลังสิอ่วยลงดิน กำลังสิมุดดินลงไปเนาะ

17
อันนี้คืออี่หยัง อันนี้กะเป็นทัมมะซาดเนาะ กะกำลังสิ กำลังสิค่ำ กำลังสิมืดเนาะ
แล้วปะมานนั้น ขั้นพะอาทิดตกดินเนี้ย มันสิปะมานจักโมง กะสิปะมานหกโมงแลง หลือว่าทุ้มหนึ่ง ปะมานนี้ พะอาทิดกะสิตกดินเลียบล้อยแล้ว
ปะมานหกโมงเนี้ย พะอาทิดกำลังสิอ่วยลงไปตกดิน
ปะมานทุ้มหนึ่งพะอาทิดตกดินเลียบล้อยแล้วเนาะ ขั้นเป็นในพากอี่สาน
แล้วมันกะสิมืดหลังจากที่พะอาทิดตกดินไปแล้ว แล้วอากาดหลือว่าบันญากาดกำลังกะสิมืดไป

Basic vocabulary — page 19 — Series B, pictures 11-14: calendar, day, week, month, year


11
นี้คืออี่หยัง นี้คือปะติทิน อันนี้เป็นปะติทิน บอกมื้อ บอกวัน บอกเวลา หลือบอกเดียนบอกปีนั้นหละ
แต่ว่าในปะติทินนี้มีบอกสามมื้อหนึ่ง มีบอกวันที่สิบ แล้วกะบอกวันที่สิบเอ็ด แล้วกะบอกวันที่สิบสอง มีบอกสามมื้อ เฮาเห็นสามมื้อนั้นหละ

12
นี้คืออี่หยัง อันนี้กะเป็นปะติทินคือกัน อันนี้กะเป็นปะติทิน
เป็นปะติทินบอกมื้อ ตอนนี้เฮาเห็นปะติทินบอกเจ็ดมื้อหนึ่ง บอกบ่หลาย เห็นแค่เจ็ดมื้อ
มีวันที่สิบเอ็ด สิบสอง สิบสาม แล้วกะสิบสี่ สิบห้า สิบหก แล้วกะสิบเจ็ด
มีเจ็ดมื้อหนึ่ง เอิ้นง่ายว่ามีอาทิดหนึ่ง อาทิดหนึ่งมีเจ็ดมื้อ
ในอาทิดหนึ่งกะสิมีเจ็ดมื้อ กะสิมีวันจัน วันอังคาน วันพุด วันพะลึหัด วันสุก วันเสา แล้วกะวันอาทิด
กะมีเจ็ดมื้อ ลวมกันกะเป็นอาทิดหนึ่ง หลือเจ็ดมื้อนั้นหละ

13
นี้คืออี่หยัง อันนี้กะเป็นปะติทินคือกัน อันนี้ปะติทินบอกเดียน อันนี้กะเป็นปะติทิน ปะติทินบอกเดียน
อันนี้มีเดียนหนึ่ง แล้วแต่เดียน อันนี้บ่ฮู้ว่าเป็นเดียนอี่หยัง แต่ว่าในเดียนนี้มีสามสิบเอ็ดมื้อ
บางเดียนกะมีสามสิบมื้อ บางเดียนกะมียี้บเก้ามื้อ แล้วแต่ เดียนกุมพาพันกะสิมียี้บเก้ามื้อ
ขั้นเดียนใดที่ลงท้ายด้วย คม กะสิมีสามสิบเอ็ดมื้อ ขั้นเดียนใดที่ลงท้ายด้วย ย๊น กะสิมีสามสิบมื้อ
แต่ว่าในเดียนนี้ที่เขาบอก[อยู่]ในลูบพาบนี้ กะสิมีสามสิบเอ็ดมื้อ เดียนนี้กะอาดสิลงท้ายด้วย คม

14
นี้คืออี่หยัง อันนี้กะเป็นปะติทิน เป็นปะติทินคือเก่านั้นหละ แต่ว่าปะติทินอันนี้เป็นปะติทินบอกปี บอกปี
ปีหนึ่งกะสิมีสิบสองเดียน อันนี้เป็นบอกปี ปีสองพันห้าล้อยห้าสิบเก้า
หลือบอกคอสอ ขั้นเป็นคอสอของปะเทดฝะลั่งกะสิสองพันสิบหก
ในสิบสองเดียน หลือในปีหนึ่ง กะสิมีสิบสองเดียน แต่ละเดียนกะสิมี หนึ่ง เดียนมกกะลาคม สอง กุมพาพัน สาม เดียนมีนาคม สี่ เดียนเมสาย๊น ห้า เดียนพึสะพาคม หก เดียนมิถุนาย๊น เจ็ด เดียนกะละกะดาคม แปด เดียนสิงหาคม เก้า เดียนกันญาย๊น สิบ เดียนตุลาคม สิบเอ็ด เดียนพึสะจิกาย๊น สิบสอง เดียนทันวาคม
อันนี้กะสิเป็นสิบสองเดียนในหนึ่งปี แต่ละปีกะสิมีสิบสองเดียนนี้หละ
แล้วในปีหนึ่งสิมีจักมื้อ ในปีหนึ่งกะสิมีสามล้อยหกสิบหกมื้อ หลือสามล้อยหกสิบห้ามื้อ
ขั้นเดียนกุมพา หลือขั้นปีใดที่เดียนกุมพาพันมียี้บแปดมื้อ ปีนั้นกะสิมีสามล้อยหกสิบห้ามื้อ
แต่ว่าขั้นปีใดที่เดียนกุมพาพันมียี้สิบเก้ามื้อ ปีนั้นกะสิมีสามล้อยหกสิบหกมื้อ

Stories — Dog getting dirty

มื้อนี้เนาะหอั้น มีเลี่ยงหนึ่ง มีเลี่ยงหนึ่งเนาะ สิมาเว้าให้ฟัง เลี่ยงหมาน้อยหนิหละ หมาน้อยของข้อยหนิหละ เป็นหมาน้อยโตหนึ่งเนาะ หมาน้อยหอั้น โตน้อยนี้หละ พุข้าเอามาเลี้ยง เอามาเลี้ยงใหม่หละ หัวกะเอามาเลี้ยงเนาะ เป็นหมาน้อย หมาพัน จักพันอี่หยังบุ โตน้อยตาฮักดอก ตาฮักอี่หลี หมาน้อยหนิกะเดย ขนสีน้ำตานพุ้นแหล้ว ขนญาวฟูบักคักพุ้นหละ ขนมันกะเดย งามอี่หลี งามคักงามแน่ สะออนหลาย พาไปหม้องนั้นหม้องนี้ มีแต่คนสะออน เขาสะออนคัก เขาสะออนหลาย ญ้อนว่ามันตาฮักหลาย มันตาฮัก

เทิงขี้มึน หมาอี่หยังมามึนกะด้อกะเดี้ย ขี้มึนหลาย หมาโตหนิกะเดย มีหอั้นเลี่ยงหนึ่งหนิหละ มาเว้าเลี่ยงหมาน้อย สิเว้าเลี่ยงหมาน้อยให้ฟัง มื้อนั้นหอั้น เลิกเลียนมาแล้ว มื้อวานนั้นหละเนาะ บ่แม่นมื้อนั้นดอก มื้อวานนั้น เลิกเลียนมาแล้ว หอั้นกะเลยกับบ้าน มาเอาหมาหอั้นสิพามันไปแล่นเหล้น อยู่สะหนามหญ้า อยู่โลงเลียนพุ้นหละ มื้อวานนั้นกะพามันไปแล่นเหล้น โอ๊ย หมากะมึนคักมึนแน่ พามันไปเหล้น ไปหาหมู่พุ้นหละ หาหมู่หมามันคือกันหละ หมู่ของข้อยกะเลี้ยงหมาคือกัน มีสี่ห้าคนพุ้นหละ พากันเลี้ยง คนละโตสองโต เลี้ยงแล้วกะมาเหล้นอยู่นำกันบัดหนิ เลี้ยงอยู่ในหอั้น เอามาหอั้นเหล้นอยู่สะหนามหญ้านั้นหละ อยู่สะหนามหญ้า [...] อยู่โลงเลียนนั้นหละ แล้วกะเอาหมาเหล้นนำกันบัดหนิ โอ๊ย หมาพ้อกันกะม่วนกุ่บ แล้วบัดนี้มันพ้อกันหนะ หลายโตเนาะ กะมีความสุข แล้วหมาได้แล่นเหล้นนำกัน แล่นยอกกัน ก่องแก่งอยู่ แล่นอยู่นำสะหนามหญ้านั้นหละ โตหนึ่งกะแล่นไปทางซ้าย โตหนึ่งกะแล่นไป[ทาง]ขวา โตหนึ่งกะแล่นยอกกัน แล่นเหล้น มึนคักมึนแน่

บัดนี้หมาของข้อยบัดหนิ โตนั้นหละ โตตาฮักนั้นหละ มึนกว่าหมู่บัดหนิ แล่นไปใสบ่แล่น แล่นลงคองน้ำพุ้นหนะ โอ๊ย คองน้ำน้อยดอกว่า แต่ว่า มันกะคองใหญ่พอสมควนหนิหละ มันกะแล่นลงไป เกียกขี้ตมล้อมอ้อมขึ้นมาบัดหนิ โอ๊ย มึนคัก มึนแน่ บ่ฮู้จักความหลาย หมาหนิกะเดย เกียกขี้ตมล้อมอ้อมขึ้นมาบัดหนิ โอ๊ย ข้อยกะสูนวะสั้นหละ ใจฮ้ายวะสั้น ด่ามันวะสั้นแหล้ว บ่ให้มันเหล้นอีกซ้ำแหล้ว พามันกับบ้านซ้ำ พามันกับบ้านไปล้างตนล้างโต ล้างขนมันออกนั้นหละ ขี้ตมมันบ่เป็นตาเบิ่งเนาะ ขี้ตม เกียกขี้ตมแล้วกะ โอ๊ย สูนวะสั้น เทิงสูนให้หมา เทิงสูนให้เจ้าของว่าพามันไปเหล้นอยู่นั้น ใก้คองน้ำเนาะ กะเลยพามันมาอาบน้ำ แล้วกะ [...] สะอาดคือเก่าหละ ตาฮักคือเก่าเนาะ แล้วกะมื้อหลังกะพามันไปคือเก่านั้นหละ อันนี้กะมาเว้าให้ฟังซื่อๆ ว่าพามันไปเหล้น มันมึนหลายเนาะ

Stories — Childhood memory: jumping off a tree branch into a pile of straw, branch breaks

มีมื้อหนึ่งเนาะ แต่โดนนั้นหละ แต่โดนเติบ แต่หลายปีแล้วหละ ตั้งแต่พุข้าเป็นเด็กน้อยพุ้นหละ ตั้งแต่เป็นเด็กน้อย อายุพุ้นหละมาลาวๆ หอั้น สิบปี สิบเอ็ดปีพุ้นหละเนาะ จักปีเกาะ สิบปี สิบเอ็ดปีพุ้นหละ เป็นสิบปีคืนหลังพุ้นหละ ตั้งแต่เป็นเด็กน้อย เป็นเด็กน้อยเด็กเอ่ยพุ้นหละ พากันเหล้นกันเนาะ ตามปะสาเด็กน้อยหละ โอ๊ย เด็กน้อยอยู่บ้านกะหลายกะด้อกะเดี้ย หมู่กันหนิหละ ตั้งแต่เป็นเด็กน้อยเนาะ กะหมู่หลายเนาะ สะหมัยแต่กี้เด็กน้อยในหมู่บ้านหนิ หลายเติบเด่ะเด็กน้อยหนิ เป็นซาวพุ้นหละ ซาวกะคือยี้สิบพุ้นหละ เป็นยี้สิบสามสิบคนพุ้นหละ เด็กน้อยในหมู่บ้านนั้น หลายคัก

พากันเหล้นมื้อนั้น พากันซวนกันไปเหล้น ไปเหล้นอี่หยังบุ ไปเหล้นอี่หยัง บ่เหล้น พากันได้ปีนกกไม้ ไปปีนหอั้น ไปเหล้นหญ้มหอั้น กกไม้ ต้นอี่หยังเกาะ เขาเอิ้นว่าหอั้น ต้นผักกะเสดติ ต้นผักกะเสดเนาะ ไปพากันไปปีนเหล้น โอ๊ยตาอยากหัวหลาย คิดพ้อแล้วกะเดย คิดพอแล้วกะอยากหัวเนาะ ไปพากันไปปีนเหล้น สี่ห้าคนพุ้นแหล้ว มื้อนั้นหอั้น ปีนขึ้นไปต้นนั้น ผักกะเสดกะต้นน้อยเนาะ ต้น[...] ลำบ่ใหญ่ปานใด

พากันขึ้นสี่ห้าคน ขึ้นแล้วกะหญ้ม [...] เหล้นพุ้นแหล้ว ขึ้นเหล้นเพาะว่าหอั้น อยู่ข้างกกหอั้น ผัก ผักอี่เสดหนะ ต้นผักอี่เสด แล้วมันสิมีหอั้น กองเฟียงเนาะ กองเฟียงกองบักใหญ่หนึ่ง เด็กน้อยกะแล่นเหล้น บางคนกะเหล้นอยู่อ้อมกองเฟียงนั้นหละ แล่นเหล้น แล่นซ้าย แล่นขวา โดดซ้าย โดดขวา โดดอยู่เทิงกองเฟียงนั้นหละ ม่วนหลาย ม่วนคัก

ซุมขี้มึนบัดหนิ ซุมขี้มึนกะไปปีนหอั้นกกผักอี่เสด จักปีนจั่งใด หญ้มซ้าย หญ้มขวา บางคนกะโดดใส่กองเฟียง บางคนกะโดดลงข้างล่าง โดดซ้าย โดดขวา ปีนขึ้นเทิงโดด ปีนขึ้นเทิงโดดเนาะ โดนเติบ บัดนี้พอฮอดหอั้น โดนเติบ บัดนี้หอั้น ต้นไม้มันกะสิหักตั๊วะบัดหนิ ต้นไม้ ผักอี่เสด ต้นที่ ที่มันขึ้นนั้นหละ สี่ห้าคนนั้นหละ มึนคักมึนแน่แต่กี้หนะ หักลงมาบัดหนิ ยืนอยู่เทิงนั้นสี่ห้าคนพุ้นหนะ ง่าผักอี่เสดหักลงมา ตกเอ้ม! ลงมา ตก เจ็บวะสั้น แล้วพากันให้ก้ากๆ ไปหาพ่อหาแม่บัดหนิ

กองเฟียงกะบ่ได้เหล้นซ้ำ ต้นไม้นั้นกะหักซ้ำ บ่มีพุใดได้ขึ้นอีกบัดหนิ พากันให้แข่งกัน ไปหาพ่อแม่บัดหนิ ถืกตีซ้ำ พ่อแม่กะตีซ้ำว่ามึนหลาย ไปเฮ็ดหญังบ่เฮ็ด ไปปีนกกไม้ ตกลงมาให้ก้ากๆ ได้เป็นแผเป็นเอ่ย เจ็บโตซ้ำ เทิงถืกพ่อแม่ตีอีก บัดนี้กะบ่ได้ไปขึ้นอีกดอก บ่มีกกไม้ กกไม้กะได้หักแล้ว บ่ได้ขึ้นอีกดอกบัดหนิ

มื้อหลังมื้อใหม่กะสิหาเหล้นแนวใหม่พุ้นหละ บ่มีหม้องขึ้นแล้ว กก [...] ไม้ กกผักอี่เสดอยู่ข้างกองเฟียง หม้องที่สิโดดลงกองเฟียงหนะกะบ่มีแล้ว กะสิได้หาเหล้นแนวใหม่ต่อไปนี้เนาะ

Basic vocabulary — page 22 — Series B, pictures 01-04: to plough, to plant, to harvest


1
นี้คือสัดอี่หยัง อันนี้เป็นควย เขาเอิ้นว่าควย
โตของควยมันโตใหญ่ แล้วควยมันมีแฮงหลายพ้อม
ตอนนี้เขาเฮ็ดอี่หยังกับควย เขาใซ้ควยไถนา เขากำลังเอาควยมาไถนาอยู่
สะหมัยแต่กี้ หลือสะหมัยก่อนบ่มีลดไถนา หลือว่าบ่มีลดไถ เขาต้องใซ้ควย เอาควยมาไถนา เพื่อที่สิเอาไว้ถ้าเฮ็ดนาหลือปูกเข้านั้นหละ
แล้วตอนนี้เขาเฮ็ดอยู่ใส เขาอาดสิเฮ็ดอยู่ทุ่งนาของเขา หลือว่าไฮ่นาของเขากะได้ เขากะเลยมาไถนาอยู่หม้องนี้

2
เขากำลังเฮ็ดหญัง เขากำลังดำนา
เขากำลังเฮ็ดนา หลือว่ากำลังปูกเข้านั้นหละ
แล้วเขาเฮ็ดอยู่ใสตอนนี้ กะเฮ็ดอยู่ทุ่งนา หลือว่าไฮ่นาของเขานั้นหละ
เขากำลังปูกเข้า กำลังดำนา เฮ็ดอยู่นาของเขา
แล้วพุซายคนนี้เขาเฮ็ดท่าทางจั่งใด เขากำลังก้มโค้งอยู่ เขากำลังเฮ็ดนา เขากำลังดำนา
เขาใซ้มือข้างหนึ่ง หลือว่าข้างขวาของเขานั้นหละ จับมัดก้าอยู่
มัดก้ากะสิมัดใหญ่หลือว่ามัดก้านั้นสิมีเข้าหลายต้น
แล้วเขากะใซ้มืออีกข้างหนึ่ง หลือว่ามือข้างซ้ายนั้นหละ แล้วแต่คนถะหนัดสิจับฝั่งใด หลือญกฝั่งใดกะได้
แต่ว่าพุซายคนนี้ เขาใซ้มือข้างซ้ายของเขา ดึงต้นก้าที่อยู่ในมัดก้านั้น แล้วดึงออกมาจักหน่อยหนึ่ง หลือว่าสี่ห้าต้น แล้วกะมาเสียบลงดิน เพื่อที่สิปูกเข้า เพื่อที่สิปูกเข้าลงไปในดิน หลือว่าเสียบต้นเข้าลงไปในดิน เพื่อที่สิให้มันต้นใหญ่ขึ้นไป

3
เขากำลังเฮ็ดหญัง เขากำลังเกี่ยวเข้า
พุซายคนนี้เขากำลังเกี่ยวเข้าอยู่
เขากำลังเกี่ยวเข้าอยู่ใส เขากะอาดสิเกี่ยวอยู่ในไฮ่นาของเขา หลือว่าไฮ่เข้าของเขา
เข้ามันต้นใหญ่แล้ว หลือว่าเข้ามันแก่แล้ว เขากะเลยมาเกี่ยวเข้าอยู่ในนาเข้าของเขา เพื่อที่สิเอาเข้านี้ไปกิน
แล้วเขาใซ้อี่หยังมาเกี่ยวเข้า เขากะใซ้เกี่ยว เขาเอิ้นว่าเกี่ยว คนอี่สานกะเอิ้นว่าเกี่ยว
เกี่ยวกะสิเป็นค้ายกับมีด มีคมคือกันกับมีด แต่ว่าลักสะนะของเกี่ยวมันสิเป็นงอเป็นงอเข้าเพื่อที่สิได้เกี่ยวเข้ามาได้ หลือว่าดึงเข้ามาได้นั้นหละ

4
เขากำลังเฮ็ดหญัง เขากำลังเก็บผัก เขากำลังเก็บผักอยู่ในสวนอยู่
เขากำลังเก็บผักอี่หยัง เขากำลังเก็บผักกะหล้ำ
อันนี้เขาเอิ้นว่าผักกะหล้ำ หลือว่ากะหล้ำปีนั้นหละ
แต่ว่าคำว่า กะหล้ำปี มันญาวโพด คนอี่สานเขากะเลยมักเอิ้น กะหล้ำ ซื่อๆ ผักกะหล้ำ
เขาเก็บผักแล้ว เขาเอาผักไปไว้ใส หลือเอาไว้หม้องใด เขาเอาผักไว้ในเข้ง หลือว่าเอาไว้ในกะต่า
แล้วพุซายคนนี้ เขาเฮ็ดท่าทางจั่งใด เขากำลังนั่ง เขากำลังนั่งพับเพียบอยู่ กำลังนั่งเก็บผัก
ใซ้มือสองข้างดึงผักขึ้นมา แล้ว[เอา]มาใส่ในเข้ง หลือว่ากะต่า